“มาระตี” เผย ”มาริษ“ ย้ำ ทูต-กงศุลใหญ่-ขรก.ไทย ชี้แจง ประชาคม ไทยยึดหลักสากล -สุจริตใจ เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ขอ ปชช. รักษาบรรยากาศที่ดี
เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 8 ส.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศน์ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศเป็นประธานการประชุมออนไลน์กับเอกอัครราชทูต เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร และกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลกเรื่องสถานการณ์ไทย - กัมพูชา การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญคือ เพื่อให้เอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่และข้าราชการของไทยทั่วโลกได้รับทราบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อนำไปชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับท่าทีไทย การรักษาผลประโยชน์ของไทยอย่างเต็มที่ ทุกกรอบและองค์กร รวมถึงทุกฝ่ายที่ติดตามสถานการณ์ประเทศไทยในต่างประเทศ โดยให้การชี้แจงของทูตทั้งหลายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยนายมาริษได้แจ้งผลการประชุมจีบีซีให้คณะทูตได้รับทราบ โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับทีมผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ที่จะลงพื้นที่สังเกตการณ์การปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงของทั้งสองฝ่าย โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ทีมที่ติดตามการทำงานจะไม่สามารถทำได้ในทันที ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายอื่นๆมากกว่า ก็จะเป็นเรื่องของความเหมาะสม และระยะเวลาที่จะใช้ในการจัดตั้ง
นางมาระตี กล่าวว่า นายมาริษ ได้ชี้แจงและยืนยันกับทูตทั้งหลายให้สะท้อนกับประชาคมโลกว่า ในการเจรจา และการเดินหน้าไทยจะยึดมั่นข้อเท็จจริง กฎหมาย หลักสากล ความจริงใจและสุจริตใจ เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นโดยเร็ว และยังคงจะรักษาอธิปไตยโดยยึดประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้ทางคณะทูต ผู้แทนถาวร และกงศุลใหญ่ได้มีการชี้แจงกับประเทศเจ้าบ้านและในเขตอาณา รวมถึงการให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นด้วย ในส่วนของสำนักงานประเทศไทยที่เป็นคณะผู้แทนถาวรที่ประจำองค์การระหว่างประเทศทั่วโลก ได้ชี้แจงให้ที่ประชุมทราบถึงการติดตามความเคลื่อนไหว ความคืบหน้าในองค์การระหว่างประเทศต่างๆ
นางมาระตี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนคนไทยมั่นใจว่าทีมไทยแลนด์ ทุกแห่งกำลังทำงานอย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะสื่อสารกับประชาคมโลกในช่วงจังหวะสำคัญนี้ เพื่อเน้นย้ำจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ผ่านกลไกทวิภาคี และยังคงเดินหน้าปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด อย่างจริงใจ และสุจริตใจ ขอย้ำอีกครั้งว่าสถานการณ์ไทย-กัมพูชาขณะนี้ เป็นเรื่องของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เรื่องระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่าย ขอให้ประชาชนรักษาบรรยากาศที่ดี เพื่อเอื้อต่อการแก้ไขปัญหาของทั้งสองประเทศ และให้ประชาชนกลับบ้านมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็ว