ครอบครัวเตรียมรับร่าง ส.อ.อัมรินทร์ ผาสุก เพิ่งโดนระเบิดมาเมื่อ 3 ที่แล้ว ก่อนขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ
หลังจากที่เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา มีรายงานว่ามีกำลังพลเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัด กรมทหารราบที่ 23 กองพันทหารราบที่ 3 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ โดยเพจ เชียงใหม่ที่คุณไม่เคยเห็น โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า R.I.P. ส.อ.อมรินทร์ ผาสุข (NCO.45/64) สูญเสียวีรบุรุษคนที่9 สดุดีทหารกล้า
เสียชีวิตจากปะทะที่ปราสาทตาเมือน น้องโดนระเบิดมาแล้วครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ยังขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันประเทศต่อ และทำหน้าที่จนถึงที่สุด ขอบคุณที่ปกป้องประเทศของเราครับ Nco4564 ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ส.อ.อมรินทร์ ผาสุข
ล่าสุดวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ที่วัดบูรพาราม บ้านคูเมืองตก ต.คูเมือง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ญาติพี่น้องของ ส.อ.อัมรินทร์ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับศพที่จะนำมาประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในช่วงเวลา 15.00 น.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พวงมาลาพระราชทาน พิธีบำเพ็ญกุศลศพ และพระราชทานเพลิงศพในวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม
ด้านแม่ของทหารกล้า กล่าวว่า ภูมิใจที่ลูกทำเพื่อประเทศชาติ ตนเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูกทั้งหมด 4 คน โดย ส.อ.อัมรินทร์ เป็นคนที่สอง ส่วนคนที่หนึ่ง เป็นครู คนที่สาม ค้าขาย และคนสุดท้องยังเรียนหนังสืออยู่ ความฝันของลูกชายคนนี้เขาอยากเป็นทหารตั้งแต่ยังเด็กๆ เคยขอให้แม่ซื้อชุดทหารให้
แต่ตอนนั้นแม่ไม่มีเงินจึงไม่ได้ซื้อให้ เมื่อถึงอายุเกณฑ์ทหารก็สมัครเข้าเป็นทหารเกณฑ์ พอครบ 2 ปีปลดประจำการ เขาก็ไปสมัครสอบนายสิบและสอบได้ตามความตั้งใจ
ตอนเกิดเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดน น้องยังโทรศัพท์มาบอกแม่ว่าต้องไปทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติ ต้องไปรบ แม่ก็บอกเขาให้ไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ปกป้องประเทศของเรา ก่อนวางสายน้องยังบอกอีกว่า แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวผมก็จะกลับมาหาแม่กับยาย
ตอนแรกที่มีโทรศัพท์แจ้งการเสียชีวิตของลูก ได้ยินแล้วทำอะไรไม่ถูก เพราะเสียใจและเสียดายลูกมาก แต่ก็ภูมิใจที่ลูกได้ไปทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างลูกผู้ชาย เมื่อมีการเจรจาหยุดยิงก็อยากให้ทหารทุกนายได้กลับไปหาครอบครัว และทำหน้าที่รั้วของชาติต่อไป
ทีมข่าวสยามนิวส์ขอสดุดีแด่เกียรติยศด้วยความเคารพ ขอเป็นกำลังใจแก่ครอบครัวและผู้ใกล้ชิดในช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนี้