ผบช.ไซเบอร์ งัดสถิติโลกซัดกลับ ฮุน เซน มั่ว ไทยเป็นสแกมเซ็นเตอร์
วันที่ 27 มิถุนายน 2568 มีรายงาน กรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ที่โพสต์ข้อความว่ามี 7 นักการเมืองใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ การฟอกเงินในประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เผยว่า ในกรณีดังกล่าวหากตำรวจไซเบอร์มีหลักฐานที่ชัดเจนทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง
ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่จะมีข้อมูลในส่วนตรงนี้ แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. รู้จากการสืบสวนสอบสวนหรือได้ข้อมูลจากสายข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามหรือออกนาม 2. การที่มีหลักฐานที่นำเข้าไปประกอบในสำนวนก่อนส่งอัยการนั้น จะต้องมีหลักฐานที่มีข้อเท็จจริง
ดังนั้น รายชื่อที่นายวิโรจน์พูดว่าทางตำรวจไซเบอร์รู้แล้วว่าเป็นใคร พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า ยังไม่ทราบว่าพูดถึงบุคคลใด และไม่รู้ว่ามีนักการเมืองท่านใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่
แต่ที่ผ่านมา ก็มีคดี ส.จ.กอล์ฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ที่อยู่ประเทศกัมพูชา ทางตำรวจไซเบอร์เองก็ต้องมีข้อมูลอยู่แล้ว เพราะเป็นคนดำเนินคดี
ส่วนกรณีที่ ฮุน เซน เผยว่าประเทศไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างปัญหาให้กับคนทั่วทราบนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ เผยว่า จากสถิติของสากลโลก ตรงกับข้อมูลสถิติของประเทศว่า แหล่งสแกมเซ็นเตอร์ 80% อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และอีก 20% อยู่ประเทศพม่า รวมไปถึงสถิติการร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งการที่ ฮุน เซน ออกมาเผยแพร่แบบนี้ จะต้องเข้าไปดูว่าเราก็สามารถดำเนินคดีอะไรได้บ้าง เนื่องจากเป็นการกล่าวหาและให้ข้อมูลเท็จผ่านทางโซเชียล
ส่วนมาตรการที่ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการในทุกวิถีทางตัดไฟ เน็ต น้ำมัน นั้น ทำให้แก๊ง Call Center ได้รับผลกระทบประมาณ 30% นั้น ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับวิธีการถ่ายโอนเงินจากระบบออนไลน์กลับมาใช้รูปแบบเดิม โดยใช้บัญชีม้ากดเงินในประเทศไทยก่อนนำส่งไปยังคนกลางและส่งไปให้ตัวการใหญ่ของแก๊งจีนเทา เนื่องจากมาตรการของไทยที่ปรับมารับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นสร้างความลำบากให้กับพวกนี้เป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงมาตรการในครั้งนี้ เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการเหล่านี้ได้มากขึ้น ทำให้สามารถนำทรัพย์สินกลับมาคืนสู่ประชาชนได้ไม่มากก็น้อย
ส่วนกรณีตึก 18 ชั้น และ 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ เผยว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ได้พยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเท่าที่ทำได้ และบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการกำชับให้ตำรวจในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา จนรู้ว่าแหล่งสแกมเซ็นเตอร์มีอยู่รอบประเทศเราและอยู่ตรงไหนบ้าง ตำรวจไซเบอร์ก็พยายามเจาะข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสืบทราบหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด