"รฟท." เปิดเกมรุก สัญญาเช่า "ที่ดินรัชดาฯ-ตลาดศาลาน้ำร้อน" ปั้นรายได้ปี 69 พุ่ง 1 หมื่นล้าน
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (17 ก.ค.2568) ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.มีมติเห็นชอบให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ดำเนินการเป็นผู้เช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณอาคารกลาสเฮ้าส์ ริมถนนรัชดาภิเษก พื้นที่ 4 ไร่ โดยสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุดลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านได้มีการเจรจาขยายสัญญาเช่ากับเอกชนรายเดิมยังคงเช่าที่ดินในโครงการได้ ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568
โดยปัจจุบันพบว่ามูลค่าประเมินที่ดินและอาคารดังกล่าวประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งสัญญาเช่าเริ่มต้นในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 มีสัญญาสัมปทาน 30 ปี จากเดิมที่มีสัญญาเช่าราว 10 ปี
"โครงการนี้ถือเป็นสัญญาแรกที่ให้บริษัทลูกเข้าบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยการอนุมัติจากคณะกรรมการ รฟท.ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่าเกิน 500 ล้านบาท ทำให้ต้องเสนอต่อบอร์ดเห็นชอบด้วย" นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในที่ดินดังกล่าวพบว่าบริษัทเอสอาร์ทีเอ มีแผนการใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นสำนักงานของบริษัทลูก ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานอยู่ที่สามย่านมิตรทาวน์ที่มีขนาดค่อนข้างจำกัด ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้
โดยบริษัทเอสอาร์ทีเอฯ จะเป็นผู้บริหารจัดการและปล่อยเช่าช่วงต่อในราคาตลาด ซึ่งรฟท. คาดว่าจะได้รับค่าเช่าจากแปลงนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้จากสัญญาเดิมที่สร้างรายได้เฉพาะค่าที่ดินเพียง 5 ล้านบาทต่อปี ขณะที่สัญญาใหม่ได้ประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ รฟท. ประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ยังมีที่ดินเชิงพาณิชย์แปลงอื่นที่ รฟท.ยังคงผลักดัน โดยเฉพาะที่ดินตลาดศาลาน้ำร้อน ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนที่มีศักยภาพสูงและอยู่ระหว่างการพัฒนาจากการได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เบื้องต้นบริษัทเอสอาร์ทีเอฯ ได้ศึกษาแผนพัฒนาเป็นตลาด 2-3 ชั้นพร้อมอาคารจอดรถ
"รฟท. ยังไม่เร่งรัดการพัฒนาพื้นที่นี้มากนัก เนื่องจากมีความซับซ้อนเรื่องผู้เช่ารายเดิมและความต้องการที่จอดรถริมถนน โดย รฟท. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ฝั่งตรงข้ามตลาด ซึ่งเป็นที่พักพนักงานและโครงการบ้านเพื่อนคนไทยมากกว่า" นายอนันต์ กล่าว
ทั้งนี้ใปัจจุบัน รฟท. มีรายได้รวมประมาณ 9,700 ล้านบาทต่อปี แบ่งเป็น รายได้จากที่ดินและทรัพย์สินประมาณ 3,700 ล้านบาท และรายได้จากค่าโดยสารและค่าขนส่งสินค้าประมาณ 6,000 ล้านบาท
รฟท. โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากทรัพย์สินให้เป็น 5,000 ล้านบาทภายในปี 2569 จะทำให้รฟท.มีรายได้รวมในปีแรกของปี 2569 อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท