“จิรายุ” ซัดเขมร ควรมี “โซะเพี้ยบ โบเราะ” (សុភាពបុរស) ทางทหารหลังเขมรใช้ BM21 ถล่มตาเมือนธมของไทย
(27 ก.ค. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) กล่าวว่า การข่าวกองทัพไทยที่บริเวณแนวชายแดน รายงานว่า กองทัพกัมพูชาระดมยิง จรวดหลายลำกล้อง BM21 ถล่มปราสาทตาเมือนธม ตลอดวันที่ผ่านมา แต่กลับให้โฆษกกระทรวงกลาโหมของตนออกมาแถลงข่าวบิดเบือน อ้างว่า ปราสาทดังกล่าวเป็นของเขมรไม่มีเหตุผลที่จะยิงถล่ม
“โฆษกกระทรวงกลาโหมเขมรพูดหน้าตาเฉย ไม่อายชาวโลก ว่ากัมพูชาไม่ได้ใช้จรวด BM21 ยิงเข้าใส่ปราสาทตาเมือนธม เพราะปราสาทดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ในจังหวัดอุดรมีชัย ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องไปยิงถล่ม“ แถมยังกล่าวอ้างแบบข้างๆคูๆ ว่าปราสาทเป็นของตนเอง ทั้งๆที่โลกเทคโนโลยีปัจจุบันทั้งดาวเทียม การบันทึกภาพและเสียง รวมทั้งพยานหลักฐานล้วนบ่งชี้ชัดเจนว่ากัมพูชาเป็นผู้ก่ออาชญากรรมสงคราม ด้วยการระดมยิงด้วยอาวุธร้ายแรง ใส่พลเรือนไทยทั้งสิ้นโปรด“"โซะเพี้ยบ โบเราะ" (សុភាពបុរស)ควรมีความเป็นสุภาพบุรุษทางทหาร
นายจิรายุ กล่าวว่า ชนวนของอาชญากรรมสงครามโดยประเทศกัมพูชาเริ่มต้นด้วยการเกิดจากการระดมยิงก่อนทุกครั้ง และหากจะอ้างเช่นนี้ไทยก็คงจะอ้างได้ว่าแผ่นดินกัมพูชาทั้งแผ่นดินก็เคยเป็นของสยาม ทั้งนี้ เพราะหากจะเป็นแบบนี้ก็คงจะต้องอ้างกันไปจนถึงยุคหินเก่าในก่อนพุทธกาล
“รัฐบาลไทยขอยืนยันอีกครั้งถึงอำนาจอธิปไตยและสิทธิในการป้องกันตนเอง ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน อธิปไตยของชาติ และชีวิตของประชาชนของตนจากการรุกรานที่ผิดกฎหมายของประเทศกัมพูชา“
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่ารัฐบาลกัมพูชารู้อยู่เต็มอกว่า“ปราสาทตาเมือนธม”เป็นของประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน และขึ้นทะเบียนก่อนที่ “ประเทศกัมพูชา” จะเป็นเอกราชเสียอีก โดยขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถานของไทยตั้งแต่ปี คศ.1935 หรือเมื่อ 90 ปีที่แล้ว และปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ที่ผ่านมากรมศิลปากรได้บูรณะ และดูแลมาอย่างต่อเนื่อง กัมพูชาก็รับรู้มาตลอด อีกทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังได้สร้างเส้นทางเที่ยวชมสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย ดังนั้น กัมพูชาคิดจะตีเนียน เคลมเป็นพื้นที่ของตนเอง ทั้งนี้ขอให้กัมพูชายุติการยิงใส่พื้นที่พลเรือนทันที นายจิรายุกล่าว