โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ภาษีสหรัฐฯ 50% กระทบกาแฟ–น้ำส้ม–เอทานอลบราซิล สวนทาง Net Zero

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาษีนำเข้าสินค้าจากบราซิล 50% ที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศใช้ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดกาแฟโลก และอาจทำให้ราคากาแฟในสหรัฐฯ พุ่งสูงเกินระดับสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา

บราซิลเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่สหรัฐฯ เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด และเป็นประเทศที่บริโภคกาแฟมากที่สุดในโลก โดยมีชาวอเมริกันเกือบ 200 ล้านคนดื่มกาแฟทุกวัน

แหล่งข่าวในวงการค้ากาแฟระบุว่า อัตราภาษีใหม่ที่ประกาศหากมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม อาจหยุดการส่งออกกาแฟบราซิลชุดใหม่มายังสหรัฐฯ ซึ่งนำเข้ากาแฟจากบราซิลจำนวน 8.14 ล้านถุง (ขนาด 60 กิโลกรัม) ในปี 2024 คิดเป็น 33% ของการบริโภคทั้งหมด

ผู้บริโภคกาแฟทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐฯ กำลังจ่ายเงินในระดับราคาสูงสุดหรือเกือบสูงสุดสำหรับเมล็ดกาแฟอยู่แล้ว หลังจากราคาพุ่งขึ้น 70% เมื่อปีที่แล้วจากปัญหาอุปทานตึงตัว โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาฟิวเจอร์สกาแฟอาราบิกาพุ่งขึ้น 1.3% จากข่าวการขึ้นภาษี

นอกจากกาแฟแล้ว กว่าครึ่งของน้ำส้มที่ขายในสหรัฐฯ ก็มาจากบราซิล ซึ่งยังส่งออกสินค้าประเภทอื่นด้วย เช่น น้ำตาล ไม้ และน้ำมัน สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำส้มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการผลิตในประเทศที่ลดลงอย่างหนักเนื่องจากโรคพืช "citrus greening" พายุเฮอริเคน และอากาศหนาวจัดเป็นช่วง ๆ

รายงานจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เมื่อต้นปีนี้ คาดการณ์ว่า การเก็บเกี่ยวส้มในสหรัฐฯ ในฤดูกาล 2024/25 จะอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 88 ปี ขณะที่การผลิตน้ำส้มจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

บราซิลเป็นผู้ผลิตเอทานอลจากอ้อยหรือข้าวโพดรายใหญ่อันดับสองของโลก โดยในปี 2024 บราซิลผลิตเอทานอลราว 35,000 ล้านลิตร แต่ส่งออกไม่ถึง 6% โดยมีเพียงประมาณ 300 ล้านลิตรที่ส่งไปยังสหรัฐฯ ตามรายงานของ BTG Pactual

การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากบราซิล 50% ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานสินค้าการเกษตรโลก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าหลักอย่างกาแฟ น้ำส้ม และเอทานอล ซึ่งล้วนเป็นสินค้าส่งออกหลักของบราซิล และมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของโลก

แม้เหตุผลทางการค้าคือการลดการพึ่งพาสินค้าจากต่างประเทศ แต่ในมุมของ เป้าหมาย Net Zero และการค้าที่ยั่งยืน การขึ้นภาษีดังกล่าวอาจส่งผลในเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อแรงจูงใจในการผลิตและค้าขายสินค้าคาร์บอนต่ำ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีการพิจารณามาตรฐานการผลิตด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศผู้ส่งออก

กาแฟ

บราซิลเป็นผู้ส่งออกกาแฟอันดับ 1 ของโลก และถือเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด โดยข้อมูลจาก World Coffee Research ระบุว่า

การผลิตกาแฟอาราบิก้าในบราซิลปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO₂e) เฉลี่ยเพียงประมาณ 5 กิโลกรัมต่อกาแฟคั่ว 1 กิโลกรัม ซึ่งน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ เช่น โคลอมเบีย เอธิโอเปีย หรือเวียดนาม ปัจจัยหลายประการมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของการผลิตกาแฟออร์แกนิกในบราซิล ได้แก่ ความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคเกี่ยวกับประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก การสนับสนุนจากรัฐบาลต่อเกษตรอินทรีย์ และการพัฒนาแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบยั่งยืน

ผลิตภัณฑ์กาแฟของบราซิลสามารถเข้าถึงตลาดทั่วโลก ปริมาณการส่งออกกาแฟจากบราซิลแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพลวัตของอุปสงค์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป การแข่งขันจากประเทศผู้ผลิตอื่นๆ และภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก

ผลผลิตเมล็ดกาแฟของบราซิลมีบทบาทสำคัญในตลาดกาแฟโลก การผลิตเมล็ดกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูงของประเทศ ประกอบกับการมุ่งเน้นกาแฟออร์แกนิกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บราซิลยังคงรักษาสถานะที่แข็งแกร่งไว้ได้ เนื่องจากความต้องการเมล็ดกาแฟจากประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ที่มีจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม บราซิลยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากประเทศผู้ผลิตกาแฟอื่นๆ โดยเฉพาะเวียดนามและโคลอมเบีย

น้ำส้ม

อุตสาหกรรมนี้สร้างงานหลายแสนตำแหน่ง ตั้งแต่ภาคเกษตรกรรมไปจนถึงภาคขนส่ง และมีส่วนสำคัญต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทางการเกษตรของบราซิล

Citrus Belt ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่ใช้ปลูกส้ม ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบน้ำหยดและการเกษตรแม่นยำ เพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

อุตสาหกรรมน้ำส้มของบราซิลกำลังมุ่งสู่แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาค Citrus Belt โครงการริเริ่มต่างๆ มุ่งเน้นไปที่การลดการใช้น้ำ การนำผลพลอยได้จากส้มกลับมาใช้ใหม่ และการพัฒนาพันธุ์ส้มที่ต้านทานศัตรูพืช บริษัทใหญ่ๆ เช่น Cutrale และ Citrosuco กำลังนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ และองค์กรต่างๆ

น้ำส้มเข้มข้นจากบราซิลปล่อยคาร์บอนเพียง ประมาณ 0.3 กิโลกรัมต่อ 1 ลิตรน้ำส้ม ซึ่งต่ำกว่าน้ำส้มที่ผลิตในสหรัฐฯ เอง (เฉลี่ยประมาณ 0.5–0.7 กิโลกรัม) เนื่องจากกระบวนการผลิตใช้พลังงานชีวมวล และระบบขนส่งทางเรือที่ปล่อยคาร์บอนต่ำกว่าทางรถ

เอทานอล

บราซิลผลิตเอทานอลจากอ้อยและข้าวโพดรวมกว่า 35,000 ล้านลิตรต่อปี ซึ่งถือเป็นพลังงานชีวภาพที่มีบทบาทสำคัญต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคขนส่ง

แต่หากต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ในอัตรา 50% จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและ เสียเปรียบด้านราคาเมื่อเทียบกับน้ำมัน แม้จะมีข้อได้เปรียบด้านสิ่งแวดล้อม

อ้างอิงข้อมูล

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ดร.ยุ้ย 'เสนา' ยึดมั่น Sustainable อันดับหนึ่งบ้านโซลาร์ติดตั้งทุกหลัง ชูรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีปลายปี

43 นาทีที่แล้ว

เสี่ยง ตกชั้นเนชั่นส์ลีก VNL 'วอลเลย์บอลหญิงไทย' เหลือโอกาสแค่นัดเดียว

58 นาทีที่แล้ว

เจาะเทรนด์ลูกค้าถอยรถใหม่ป้ายแดง เช็กเลยแต่ละภาคนิยมรถประเภทใด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แสนสิริ ครึ่งปีแรกยอดขายทะลุเป้า 26,000 ล้าน ไตรมาส3 ลุย5โครงการ สวนเศรษฐกิจขาลง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่นๆ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

สำนักข่าวไทย Online
วิดีโอ

"บิ๊กเต่า"พบราชาคณะ เรียกพระเอี่ยว"สีกากอล์ฟ" | ทันข่าวเที่ยง |NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

หนุ่มโชว์สเต็ปแดนซ์บนที่สูง แค่เพลงมา อยู่ที่ไหนก็เต้นได้

BRIGHTTV.CO.TH

อย.เปิดตัว API-AI กวาดจับผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายออนไลน์

สำนักข่าวไทย Online
วิดีโอ

จี้ "พระมหาทิวากร" กลับมาพิสูจน์ตัวเอง | ทันข่าวเที่ยง |NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

เร่งช่วยเหลือชาวบ้าน จากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ จ.แพร่

สวพ.FM91
วิดีโอ

"ธรรมนัส"ย้ำรบ.สามัคคี เสียงปริ่มน้ำไร้ปัญหา | ทันข่าวเที่ยง |NationTV22

NATIONTV

4 จังหวัดอีสาน ติดเชื้อ 'ไวรัสซิกา' 7 ราย หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง ลูกอาจพิการ

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...