โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

กสิกรไทย เพิ่มเป้าจีดีพีไทยทั้งปี 68 จากเดิม 1.4% เป็นโต 1.5% ท่ามกลางความเสี่ยงท่องเที่ยวโตต่ำกว่าคาด ปิดดีลภาษีสหรัฐฯดีขึ้นหนุนความสามารถการแข่งขัน

BTimes

อัพเดต 5 สิงหาคม 2568 เวลา 1.36 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Biz

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในปี 2568 คาดส่งออกจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตดีขึ้นเล็กน้อยที่ 1.5% จากเดิม 1.4% ท่ามกลางท่องเที่ยวโตต่ำกว่าคาด

อัตราภาษี Reciprocal tarif ที่ดีขึ้นและแข่งขันได้ ปรับมุมมองการส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ดีขึ้นกว่าเดิม โดยคาดว่าจะหดตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.4% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีที่แล้ว และการส่งออกไทยทั้งปี 2568 ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.4% เพิ่มขึ้นจากประมาณการ ก่อนหน้าที่ 1.5% ทั้งนี้ การส่งออกไทย ในครึ่งปีหลังที่ยังหดตัวเป็นผลจากการเร่งสูงออกสูง ในช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวถึง 15.0% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีที่แล้ว ประกอบกับมีปัจจัยฐานการส่งออกทองคำที่สูง ในครึ่งหลังของปี 2567

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยเผชิญปัจจัยกดดันที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณที่อาจต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.5% โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย ในปี 2568 คาดว่าจะลดลงจากประมาณการเดิมมาอยู่ที่ราว 32.2 ล้านคน ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรก ในรอบ 5 ปี จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงไม่กลับมา

เมื่อวันที่ 1 ส.ค.68 สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ใหม่ต่อไทย ในอัตราที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 36% มาอยู่ที่ 19% ใกล้เคียงกับภูมิภาคอาเซียน และดีกว่าเวียดนาม หลังทางการไทยมีความพยายามในการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา

รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษี Reciprocal tariff กับสินค้าไทยที่อัตรา 19% ซึ่งเป็นอัตราที่ดีกว่าเดิม และแข่งขันได้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย กัมพูชา อีกทั้งอัตราภาษีดังกล่าวยังต่ำกว่าอัตราภาษีที่อินเดียได้รับที่ 25% ซึ่งอัตราภาษีฯ ที่ไม่แตกต่างกันส่งผลให้ในภาพรวมสินค้าส่งออกไทยยังคงความสามารถทางการแข่งขันได้

ขณะที่ภาพการค้าโลกก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากความไม่แน่นอนทางการค้าที่ลดลงรวมถึงหลายประเทศได้รับอัตราภาษีฯ ที่ลดลงกว่าที่ประกาศไว้ในเดือนเม.ย. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนมุมมองต่อการส่งออกไทยอีกทางหนึ่ง

อัตราภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ (Transshipment) ที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บในอัตรา 40% คาดว่าจะส่งผลให้การนำเข้าสินค้าเพื่อ Re-export ไปยังตลาดสหรัฐฯ ผ่านไทยซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศต่ำนั้นมีแนวโน้มชะลอลง โดยขึ้นอยู่กับการบังคับใช้มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local content) อย่างจริงจังที่อาจช่วยลดแรงกดดันต่อภาคการผลิตไทย นอกจากนี้ ภาษีนำเข้าฯ ของไทยเทียบกับภูมิภาคที่ไม่แตกต่างกัน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินลงทุนมากขึ้น

อย่างไรก็ดี การไหลเข้ามาของสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อบริโภคในประเทศคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ภาคการผลิตในปีนี้คาดว่าจะยังหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

ภายใต้ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ไทยต้องยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ราว 90% ของสินค้าทั้งหมด รวมถึงลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีลงนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเปิดตลาดนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อาจไม่ทำให้สินค้าสหรัฐฯ ไหลบ่าเข้ามาในไทยมากอย่างที่กังวล เนื่องจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีอัตราภาษี MFN เป็น 0% อยู่แต่เดิม

สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไทยไม่สามารถผลิตได้ หรือผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ เช่น เครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์บางรายการที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง อีกทั้ง ขึ้นอยู่กับความสามารถทางการแข่งขันด้านต้นทุนของสินค้าสหรัฐฯ ในแต่ละอุตสาหกรรม

สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ หลายรายการอาจมีต้นทุนสูงกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศ หรือสินค้านำเข้าจากตลาดอื่นโดยเฉพาะตลาดที่ไทยมี FTA อยู่แต่เดิม

อย่างไรก็ตาม หากไทยต้องเพิ่มโควต้าพลังงานและเกษตรจากสหรัฐฯ อาทิ สินค้าเกษตรอย่างถั่วเหลือง ข้าวโพด รวมถึงเนื้อสัตว์ คาดว่าจะกระทบเกษตรกรรายย่อย และในบางกรณีจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มขึ้น และอาจจะส่งผ่านมายังเงินเฟ้อในระยะถัดไป ทั้งนี้ ยังต้องติดตามความชัดเจนของการเปิดตลาดสินค้าเกษตรในรายละเอียด รวมถึงมาตรการเยียวยาจากภาครัฐ

ติดตามนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มเติม หลังจากนี้ โดยเฉพาะผลกระทบจากรายการสินค้าภายใต้ Section 232 ที่คาดว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และไม้แปรรูป เป็นต้น นอกจากนี้ ยังต้องติดตามประเด็นทางกฎหมายเรื่องอำนาจการบังคับใช้ภาษี Reciprocal tariff ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังอยู่ในขั้นตอนไต่สวนอยู่ ขณะที่ไทยอยู่ระหว่างเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) และแคนาดา ซึ่งอาจช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดอื่นนอกจากสหรัฐฯ มากขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BTimes

ไมโครซอฟท์ชี้บริษัทไทยขยันเรียกประชุม ลูกน้องบ่นทำเต็มที่แล้ว | คุยกับบัญชา | 27 มิ.ย. 68

47 นาทีที่แล้ว

นักวิชาการชี้ภาษีทรัมป์ 19% ฉุดส่งออกชะลอตัว คาดโต 5% ห่วงสินค้าจีนทะลัก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

หุ้น META แกร่งทุกมิติ Instagram นำโด่ง

หุ้นวิชั่น

3 ประธานซีพี มอบทุนศึกษา บุตรทหารเสียชีวิต จนจบป.ตรี พร้อมเปิดโอกาสทำงานในเครือ

MATICHON ONLINE

ซูซูกิ เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ก.ย.นี้ เดินหน้ามุ่งสู่เป้าขาย 8,000 คัน

Khaosod

“หวยเกษียณ” ผ่านวุฒิสภา 111 ต่อ 1 เสียง พร้อมเปิดขายไตรมาส 4 ปี 68

การเงินธนาคาร

ครั้งแรกในไทย!บางกอกแอร์เวย์ส พลิกโฉมยูนิฟอร์ม “นักบิน ลูกเรือ” ใส่รองเท้าผ้าใบให้บริการ

Manager Online

ต้นสังกัด "เป๊ก ผลิตโชค" อัปเดตหลังผ่าตัดยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ฐานเศรษฐกิจ

ไมโครซอฟท์ชี้บริษัทไทยขยันเรียกประชุม ลูกน้องบ่นทำเต็มที่แล้ว | คุยกับบัญชา | 27 มิ.ย. 68

BTimes

เปิดขายบัตร Mangmoom EMV ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่ม 1 ส.ค.68 ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ 25 ส.ค.นี้

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยชี้ราคาข้าวไทยถูกดดันจากตลาดข้าวโลกล้น แถมมีราคาแพงกว่าคู่แข่งสำคัญของโลก คาดไทยส่งออกข้าว 6 แสนตันในกรกฎาคมนี้ 

BTimes

เศรษฐกิจไทยแบบนี้ เข้าพายุสมบูรณ์แบบ ปัจจัยลบรุมพร้อมกัน | คุยกับบัญชา | 1 ส.ค. 68

BTimes

มหาเศรษฐีเมืองผู้ดีแห่ย้ายออกประเทศมากที่สุดในโลก แซงหน้าจีนครั้งแรกในรอบ 10 ปี

BTimes
ดูเพิ่ม
Loading...