ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอกระทุ่มแบนชี้ ปัญหาพระมั่วสีกาควรจัดการทั้งในทางสงฆ์และกฎหมาย
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นายเอกชัย เฮ้งเจริญสุข อายุ 65 ปี ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นควรแยกเป็น 2 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. เกิดจากกระบวนการภายนอกศาสนา ซึ่งอาจเป็นผู้ไม่ศรัทธา หรือกลุ่มที่มีเจตนาบ่อนทำลายศาสนา อาจวางแผนล่อลวงพระสงฆ์เพื่อให้เกิดความเสื่อมเสีย
2. เกิดจากตัวพระสงฆ์เอง ที่ขาดความตระหนักในหน้าที่ของตน ซึ่งตามหลักพระธรรมวินัย พระควรปฏิบัติตาม คันถธุระ คือการศึกษาพระธรรมวินัย และ วิปัสสนาธุระ คือการอบรมจิตใจ เจริญปัญญา หากพระสงฆ์ละเลยหน้าที่เหล่านี้ ก็ย่อมนำไปสู่ความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา
นายเอกชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ข่าวฉาวที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องถึงพระชั้นผู้ใหญ่ ถือเป็นเรื่องน่าตกใจ และทำให้สังคมตั้งคำถามว่า พระผู้ใหญ่เหล่านี้มีเจตนาอย่างไร หรืออาจมีการรู้เห็นเป็นใจกับผู้มีอำนาจในลำดับสูงกว่า ขณะที่พระชั้นผู้น้อยเมื่อเห็นสิ่งผิด ก็ไม่สามารถกล้าแสดงความเห็นได้อย่างอิสระ
“วงการคณะสงฆ์ รวมถึงมหาเถรสมาคม จำเป็นต้องมีการทบทวนกฎระเบียบอย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน หน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานฝ่ายบ้านเมือง ต้องเร่งรัดการดำเนินการทางกฎหมายให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น” นายเอกชัยกล่าว
เขาเสนอให้มีการ “ปัดฝุ่น” กฎหมายที่เคยใช้ได้ผลในอดีต เช่น กรณีพระภิกษุที่กระทำผิดปฐมปาราชิก ซึ่งไม่เพียงต้องสึก แต่ยังสามารถดำเนินคดีอาญาได้ด้วย โดยเฉพาะกรณีเกี่ยวข้องกับสตรี ควรมีบทลงโทษทั้งพระภิกษุและฝ่ายหญิง เพื่อเป็นการปกป้องศรัทธาและภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนา