‘ธีระ’ เผย มีกระบวนการดันขายเหล้าวันพระใหญ่ทั่วไทย ย้ำจุดยืนต้องไม่ข้ามเส้นความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของภาครัฐหลาย ๆ ด้านว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมแอลกอฮอล์ลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ยอมรับว่า ทำให้การผลักดันให้มีการลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำได้ยากขึ้น สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือพยายามส่งเสริมให้มีการบังคับใช้มาตรการที่มีอยู่อย่างเข้มแข็ง เช่น การห้ามขายให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี การห้ามขายในเวลาห้ามขาย และห้ามขายในสถานที่ห้ามขาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตระหนักเรื่องนี้ด้วย เพราะถ้าผ่อนคลายไปเสียทั้งหมด ด้านหนึ่งก็จะสร้างปัญหาให้กับสังคมมากขึ้นจากอัตรการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากขึ้น
“เราพยายามจัดเวทีทุกจังหวัดพร้อมนำข้อมูลต่างๆไปพูดคุยทำความเข้าใจ ชี้ให้เห็นว่า ถ้าเราปล่อยเรื่องนี้ จะทำให้มีอัตราการดื่มในกลุ่มเด็กและเยาวชนเพิ่มสูงขึ้น เอาเยาวชนเป็นตัวตั้ง เพราะที่น่าตกใจคือ เราพบว่าเด้กดื่มครั้งแรกในช่วงอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ เพราะเห็นตัวอย่างจากพ่อ แม่ ครอบครัว ซึ่งพอเริ่มดื่มครั้งแรกเร็ว ก็จะดื่มต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ผู้ใหญ่จึงต้องปกป้องเด็ดไม่ให้กลายเป็นนักดื่มเร็วเกินไป” นายธีระ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลปรับแก้กฎหมายอนุญาตขายเหล้าวันพระใหญ่ ใน 5 สถานที่ ซึ่งขณะนี้ยังมี 2 ส่วนที่ยังไม่ประกาศกำหนดออกมาชัดเจน ซึ่งมีกระแสว่ามีความพยายามให้ทำได้ทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ นายธีระ กล่าวว่า เรื่องสถานที่ที่รัฐประกาศจัดงาน กับสถานที่คล้ายสถานบริการ ในจังหวัดท่องเที่ยว ยอมรับว่ามีคนมาร้องเรียน ว่าการกำหนดให้ดำเนินการในเฉพาจังหวัดท่องเที่ยวนั้นก็จะกลายเป็นการเลือกปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม การกำหนดสถานที่เหล่านี้ เป็นเรื่องนี้จะต้องคุยกัน 2 หน่วยงาน คือ กระทรวงสาธารณสุข กับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยดูแลพ.ร.บ.สถานบริการ แต่เขาก็ตั้งข้อสังเกตว่าเขาไม่ได้ดูแลสถานที่คล้ายสถานบริการ จึงทำให้เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการสรุปออกมา
อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่าเราไม่ควรอนุญาตให้ขายเป็นการทั่วไป เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะยิ่งเกิดปัญหา 1. เราไม่รู้เลยว่าคำว่าสถานที่คล้ายสถานบริการ นั้นกินขอบเขตแค่ไหน เป็นร้านค้า หรือร้านข้าวต้มที่แค่เปิดเพลง แล้วจะทึกทักว่าเป็นสถานบริการเลยหรือไม่ ถ้าเกิดกำหนดมากว้างขนาดนั้น เท่ากับว่าผ่อนคลายจนไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน มากเกินไป เพราะฉะนั้น 2 เรื่อง คือ 1. กำหนดเฉพาะสถานที่ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว จริงๆ ตามนโยบายของรัฐบาล 2. นิยามของสถานที่คล้ายสถานบริการ จะกำหนดขอบเขตแค่ไหน ไม่ใช่เปิดกว้าง จนทุกอย่างคล้ายสถานบริการ เท่ากับว่าไม่มีการควบคุมอะไรเลย รัฐบาลก็ เหมือนกับปล่อยให้ชาวบ้านดูแลตัวเอง
“ตอนนี้ เท่าที่ทราบ เขาพยายามพูดคุยกัน เพราะนโยบายประกาศออกมาแล้ว ยังใช้ไม่ได้ ผมคิดว่าคงไม่มีใครอยากรับเผือกร้อน แต่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนใหม่เข้ามาเป็นคนของพรรคเพื่อไทย ก็ยังจึงต้องจับตา ส่วนเราก็ต้องชัดเจนว่าน่าจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นว่าแค่ไหน ถึงบอกว่าคล้ายสถานบริการ โดยเจตนาคือห้ามข้ามเส้นความปลอดภัยมากเกินไป แต่ยอมรับว่าเหนื่อยอยู่” ผอ.สคล.กล่าว.