เด็กชาวกาซาหิวตาย 66 คน กาซาเรียกร้องสหประชาชาติแทรกแซงโดยด่วน
วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2568 ฝ่ายสื่อสารมวลชนของรัฐบาลกาซาชี้ว่า กองกำลังอิสราเอลทวีความรุนแรงของการโจมตีฉนวนกาซา เป็นเหตุให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน รวมถึง 20 คนในเขตทุฟฟาห์ของกาซา
ฝ่ายสื่อกาซาประณาม อิสราเอลเร่งโจมตี ขณะที่ทั้งโลกยังคงนิ่งเฉย
ตามรายงานของทางการในเขตปกครองปาเลสไตน์ ซึ่งประณามการปิดล้อมของอิสราเอลที่เข้มงวดขึ้นซึ่งขัดขวางไม่ให้มีการส่งนม อาหารเสริม และความช่วยเหลือด้านอาหารอื่น ๆ เข้ามา ระบุว่ามีเด็กอย่างน้อย 66 คนเสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการจากการปิดล้อมดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 แม้มีการอนุญาตให้รถขนความช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติเข้ามาได้บ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอในการเยียวยาความเสียหายในฉนวนกาซา
ฝ่ายสื่อกาซาระบุว่า การปิดล้อมโดยอิสราเอลครั้งนี้สร้างอันตรายถึงชีวิตแก่ประชาชนในกาซา และถือเป็น "อาชญากรรมสงคราม" ที่เผยให้เห็นถึง "การใช้ความอดอยากอย่างเจตนาในฐานะอาวุธเพื่อกวาดล้างพลเรือน"
ฝ่ายสื่อกาซายังประณาม "อาชญากรรมต่อเด็ก ๆ ในกาซาที่ดำเนินต่อเนื่องไม่สิ้นสุด" และ "ความเงียบงันอันน่าอดสูของนานาชาติต่อความทุกข์ทรมานของเด็ก ๆ ที่ถูกปล่อยให้ตกเป็นเหยื่อของความหิวโหย โรคภัย และความตายอย่างช้า ๆ" พร้อมทั้งระบุว่า อิสราเอล รวมถึงประเทศอื่น ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี ต้องร่วมรับผิดชอบต่อ "หายนะครั้งนี้" และเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติเข้าแทรกแซงและเปิดจุดผ่านแดนเข้าสู่กาซาทันที
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ซึ่งเป็นหน่วยงานเพื่อเด็กของสหประชาชาติ เตือนว่า จำนวนเด็กที่ขาดสารอาหารในฉนวนกาซากำลังเพิ่มขึ้นอย่าง "น่าตกใจ" โดยระบุว่า ในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว มีเด็กอย่างน้อย 5,119 คน อายุระหว่าง 6 เดือนถึง 5 ปี เข้ารับการรักษาภาวะขาดสารอาหารเฉียบพลัน
UNICEF ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จาก 3,444 คนในเดือนเมษายน และเพิ่มขึ้น 150% จากเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วงนั้นมีการหยุดยิงและมีความช่วยเหลือปริมาณมากส่งเข้ามายังฉนวนกาซา
เอ็ดวาร์ด ไบก์บีเดอร์ ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของยูนิเซฟ กล่าวถึงสถานการณ์ทุพภิกขภัยที่รุนแรงขึ้นในกาซา
"ในระยะเวลาเพียง 150 วัน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม มีเด็ก 16,736 คน หรือเฉลี่ยวันละ 112 คน เข้ารับการรักษาภาวะขาดสารอาหารในฉนวนกาซา […] เด็กทุกคนที่มาเข้ารับการรักษา แท้จริงสามารถป้องกันได้ แต่ทั้งอาหาร น้ำ และการรักษาทางโภชนาการที่พวกเขาจำเป็นต้องได้รับอย่างเร่งด่วน กำลังถูกขัดขวางไม่ให้เข้าถึง […] เป็นผลจากน้ำมือมนุษย์ที่กำลังพรากชีวิตผู้คน อิสราเอลต้องอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือระดับสูงผ่านทุกจุดผ่านแดนทันที"
อิสราเอลเพิ่มการโจมตีทางตอนเหนือของกาซา
ชาวปาเลสไตน์ร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิต 60 คนจากการโจมตีของอิสราเอลต่อฉนวนกาซาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วันเดียวกับที่ฝ่ายสื่อกาซาออกประกาศเตือนถึงภาวะทุพภิกขภัยสาหัส อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศในย่านตูฟะห์ของกรุงกาซาซิตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ในจำนวนนี้มีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารที่พักอาศัย
มะห์มูด อัล-นะคะละห์ ชาวบ้านในพื้นที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Al Jazeera ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เรานั่งอยู่กันดี ๆ แล้วก็มีคนโทรมาด้วยเบอร์ส่วนตัว บอกให้เราอพยพออกจากตึกทั้งบล็อกทันที ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวอัล-นะคะละห์ของเราอาศัยอยู่ แล้วก็อย่างที่เห็น ตึกนี้แทบจะราบเป็นหน้ากลองแล้ว […] จนตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าทำไมบ้านสามชั้นสองหลังถึงถูกโจมตี… สิ่งที่เจ็บปวดคือคนทั่วโลกเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในกาซา ทั้งความทุกข์ทรมาน ทั้งการสังหารหมู่ แต่กลับนิ่งเฉย ตอนนี้พวกเราแทบไม่เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ก่อนหน้าเหตุระเบิดในตูฟะห์ มีการโจมตีทางอากาศอีกจุดหนึ่งที่เต็นท์พักพิงของผู้พลัดถิ่นในกาซาซิตี ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน รวมถึงเด็กหลายคน นอกจากนี้ ที่เมืองราฟาห์ตอนใต้ ยังมีคนถูกยิงเสียชีวิต 1 คน ใกล้จุดแจกจ่ายความช่วยเหลือของมูลนิธิ Gaza Humanitarian Foundation (GHF) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ
กับดักความช่วยเหลือ?
เจ้าหน้าที่ในกาซารายงานว่า กองกำลังอิสราเอลได้สังหารผู้คนไปแล้วกว่า 550 ราย บริเวณจุดแจกจ่ายความช่วยเหลือของ GHF และบริเวณใกล้เคียง นับตั้งแต่กลุ่มนี้เริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568
ผู้สื่อข่าวของ Al Jazeera รายงานจากกาซาซิตีว่า GHF ยังคงเป็นแหล่งอาหารเพียงแห่งเดียวในฉนวนกาซาท่ามกลางการปิดล้อมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอิสราเอลยังคงจำกัดการนำเข้าความช่วยเหลืออย่างเข้มงวดจากกลุ่มอื่น
ชาวกาซาจำเป็นต้องเสี่ยงไปรับความช่วยเหลือจากศูนย์ GHF แม้ว่าจะมีการยิงผู้ขอความช่วยเหลือเสียชีวิตหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเป็นทางเดียวที่จะช่วยให้เด็ก ๆ มีอาหารประทังชีวิต หลายคนจึงยังคงหลีกเลี่ยงบริเวณดังกล่าว
องค์กรด้านมนุษยธรรมหลายแห่งประณามลักษณะการดำเนินงานของ GHF ว่า “เป็นการทหาร” อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ปฏิบัติการของ GHF ในกาซา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ นั้น “ไม่ปลอดภัยโดยเนื้อแท้” และ “กำลังคร่าชีวิตผู้คน”
คริส ดอยล์ ผู้อำนวยการสภาเพื่อความเข้าใจระหว่างชาวอาหรับและชาวอังกฤษ กล่าวถึงระบบการแจกจ่ายความช่วยเหลือของ GHF ในกาซา
“สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงข้ามกับหลักมนุษยธรรมสากลที่ยึดถือเรื่องความเป็นอิสระ ความเป็นกลาง และความไม่มีอคติ […] เรากำลังพูดถึงชาวปาเลสไตน์ประมาณ 550 คนที่ถูกสังหารขณะพยายามเดินเท้าระยะไกลเพื่อไปเอาอาหาร และครอบครัวของพวกเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้พบกันอีกไหม”
ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ Haaretz ของอิสราเอลรายงานว่า ทหารอิสราเอลในกาซาได้รับคำสั่งให้ยิงใส่ชาวปาเลสไตน์ที่ไม่มีอาวุธบริเวณจุดของ GHF ทหารอิสราเอลคนหนึ่งอธิบายภาพที่เกิดขึ้นว่าเป็น “ลานสังหาร” อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลปฏิเสธรายงานดังกล่าว