กู้ภัยเสียสละเร่งไปทำภารกิจเพื่อผู้จากไป รถพลิกคว่ำ-จยย.หลบเสาไฟล้มเจ็บรวม 5 ราย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถกระบะของสมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม เสียหลักพลิกคว่ำกลางสายฝน ขณะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจช่วยเคลื่อนศพ บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม เยื้องแขวงทางหลวงนครพนม ก่อนเกิดเหตุซ้ำซ้อน เมื่อมีรถจักรยานยนต์หักหลบเสาไฟฟ้าที่ล้มขวางถนน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 ราย
อุบัติเหตุเกิดขึ้นขณะที่รถกู้ภัย มีเจ้าหน้าที่ 3 นาย มุ่งหน้าไปช่วยงานแห่ศพที่ ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม โดยระหว่างทางเกิดฝนตกหนัก ประกอบกับถนนมีน้ำขังและขอบถนนเป็นร่องลึก ทำให้รถเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนน ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าส่องทางจนหักโค่น ก่อนจะพลิกคว่ำหงายท้อง เจ้าหน้าที่ภายในรถได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกทั้งหมด
จากนั้นไม่นาน ขณะเจ้าหน้าที่เร่งประสานงานช่วยเหลือบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ในช่วงทางโค้ง มีรถจักรยานยนต์ Yamaha R15 ทะเบียน 1 กท 4266 นครพนม ขับผ่านมา ผู้ขับขี่ชายหนุ่มพร้อมแฟนสาวซ้อนท้าย พยายามหักหลบเสาไฟฟ้าที่ล้มกลางถนน ทำให้รถลื่นล้ม ส่งผลให้ทั้งคู่มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครพนม พร้อมหน่วยกู้ภัย เข้าดำเนินการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่งโรงพยาบาลนครพนมโดยด่วน และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จนสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝากเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ช่วงฤดูฝน เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำขัง และทัศนวิสัยต่ำ โดยเฉพาะในจุดที่มีการก่อสร้างหรือขยายถนน ซึ่งบางแห่งไม่มีสัญญาณเตือนชัดเจน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ง่าย
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ แนะนำว่า ในการขับรถผ่านถนนที่มีน้ำขัง ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วลง เมื่อขับผ่านถนนที่เปียกลื่นและเพิ่มระยะห่างระหว่างรถคันหน้ามากขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อเทียบกับการขับบนถนนที่แห้ง เพื่อการเบรกอย่างปลอดภัย การชะลอความเร็วยังลดโอกาสการสูญเสีย การควบคุมรถบนถนนที่มีน้ำขัง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อดอกยางไม่สามารถรีดน้ำที่อยู่ระหว่างยางและพื้นถนนได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือยางเส้นใดเส้นหนึ่งหรือหลายเส้นเกิดอาการลอยตัวบนผิวน้ำ ทำให้ตัวรถและยางลื่นไถล
หากรถสูญเสียการควบคุม ผู้ขับขี่จะรู้สึกว่าพวงมาลัยมีน้ำหนักเบาอย่างกะทันหันและรถไม่ตอบสนองต่อการควบคุมของพวงมาลัย หรือผู้ขับขี่อาจสังเกตว่ารอบเครื่องยนต์จะเพิ่มขึ้น และลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ความเร็วของรถไม่เพิ่มขึ้น โดยอาการนี้จะมาพร้อมกับการกระตุก เนื่องจากยางสูญเสียการยึดเกาะชั่วขณะ ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายางรถของคุณเริ่มสูญเสียการควบคุม จึงมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้.