ดร.สนธิ ชี้ อิทธิพลพายุโซนร้อนแบร์รี่ ในเม็กซิโก ทำให้ฝนตก-น้ำทวมหนักในเท็กซัส
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โพสต์ข้อความ Sonthi Kotchawat ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า พื้นที่ทางตะวันตกและตอนกลางของรัฐเท็กซัสในสหรัฐอเมริกาได้รับความเสียหายอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ จากน้ำท่วมฉับพลันในช่วงวันที่4และ5 ก.ค 68 ที่ผ่านมาโดยมีฝนตกต่อเนื่อง 6 วัน ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึง 40 ถึง 45 นิ้ว หรือ 1,000 มิลลิเมตรขึ้นไปในพื้นที่ตอนกลางของรัฐ อุทกภัยมีผลกระทบอย่างหนักในพื้นที่เชิงเขา มีผู้เสียชีวิต 82 ราย สูญหายหลายราย
โดยรัฐเท็กซัสตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกามีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ2รองจากอลาสก้าและมีพรมแดนทางทิศใต้ติดกับประเทศเม็กซิโกและอ่าวเม็กซิโก
จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา(NWS) ของอเมริกา ระบุว่าอิทธิพลที่ยังหลงเหลืออยู่ของพายุโซนร้อนแบร์รี่ที่พัถล่มชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโกเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 68 เป็นสาเหตุหลัก เนื่องจากเมื่อพายุโซนร้อนจากไปแล้วยังคงมีความชื้นปริมาณหลงเหลืออยู่ในบรรยากาศ ในขณะที่รัฐเท็กซัส มีอากาศค่อนข้างร้อน ทำให้มีความชื้นจากพื้นดินและจากอ่าวเม็กซิ โกลอยขึ้นไปในอากาศ รวมตัวกับความชื้นที่เหลืออยู่จากพายุโซนร้อนแบร์รี่กลายเป็นเมฆฝนขนาดใหญ่ เมื่อมีลมพัดพาอากาศเย็นจากอ่าวเม็กซิโกเข้ามาปะทะจึงเกิดเป็นฝนฟ้าคะนองขนาดใหญ่ มีฝนตกลงมาอย่างหนักมากโดยเฉพาะในวันที่ 4 ก.ค 68 มีฝนตกหนักถึง 250ถึง400 มิลลิเมตรในช่วงเวลากลางคืน แคมป์มิสติกซึ่งเป็นแคมป์สำหรับเด็กผู้หญิงริมแม่น้ำกัวดาลูเป ถูกน้ำท่วมฝนถล่มอย่างฉับพลันไม่มีไฟฟ้า น้ำและ Wifi ให้ใช้ ทางหลวงถูกน้ำพัดหายไป มีการอพยพเด็กออกจากค่าย พบเด็กสูญหาย 23 ราย ขณะที่ในรัฐเท็กซัสมีผู้เสียชีวิตรวมๆแล้ว 82 ราย
ด้านบอลลูนตรวจอากาศที่กรมอุตุนิยมวิทยาปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าในรัฐเท็กซัสตะวันตก แสดงให้เห็นว่าความชื้นในชั้นบรรยากาศด้านบนมีมากเป็นประวัติการณ์ ความชื้นมหาศาลดังกล่าวทำหน้าที่เสมือนเชื้อเพลิงขณะที่ลมที่พัดจากอ่าวเม็กซิโกผ่านหน้าผาหินในรัฐเท็กซัสตะวันตกเปรียบเสมือนไม้ขีดไฟที่จุดชนวนให้เกิดฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง
สำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีบทบาทสำคัญต่ออุทกภัยในรัฐเท็กซัส ผู้เชี่ยววชาญระบุว่าอุณหภูมิของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นบนพื้นดินและในอ่าวเม็กซิ โก ส่งผลให้ฝนตกหนักเป็นวงกว้าง ทั่วสหรัฐอเมริกาตั้งแต่รัฐเท็กซัสขึ้นไปจน ถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุเกิดจากอากาศจะกักเก็บไอน้ำไว้ได้มากขึ้นถึง 7%ต่ออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทุกๆ1.8 F (ฟาเรนไฮต์ )หรือ 1 C (เซลเซียส) น้ำในอ่าวเม็กซิโกจะอุ่นกว่าปกติประมาณ 3-5 F แต่ในปีนี้บางช่วงพบว่าทะเลในอ่าวเม็กซิโกนอกชายฝั่งรัฐเท็กซัสและหลุยส์เซียนามีอุณหภูมิสูงกว่าปกติถึง8 F และจากการบันทึกสภาพอา กาศของสหรัฐอเมริกาในรอบ140ปีพบว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเกินครึ่งหนึ่งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่รัฐบาลโดนัลด์ทรัมป์ สั่งเลิกจ้างพนักงาน 800 คน ในสำนักงานบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติ (NOAA)และยังมีแผนปรับลดงบประมาณลงร้อยละ 30 อีกด้วย ทำให้การพยากรณ์เตือนภัยไม่ทันเหตุการณ์และไม่แม่นยำเท่าที่ควร
#น้ำท่วมเท็กซัส