‘กรมอุทยานฯ’ ยืนยันสถานีเพาะเลี้ยงฯจุฬาภรณ์ ‘ยังไม่ย้ายเสือ’ แต่พร้อมทันทีหากจำเป็น
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. นายสุทธิพงษ์ แกมทับทิม หัวหน้ากลุ่มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า จากความห่วงใยของอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่มีต่อเจ้าหน้าที่และสัตว์ป่าในการดูแลของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์นั้น ทางสถานีฯ ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อเคลื่อนย้ายสัตว์ในความดูแล หากมีความจำเป็นอันเนื่องมาจากสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำว่าเป็นการเตรียมการเท่านั้น ปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลสัตว์ของสถานีฯ
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ตั้งอยู่ใน ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 13 กม. และห่างจากจุดปะทะประมาณ 70 กม. ซึ่งในพื้นที่ใกล้เคียงสถานีฯ ไม่มีเป้าหมายทางทหารแต่อย่างใด
“สถานีฯ ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินในการเคลื่อนย้ายสัตว์ หากได้รับการแจ้งเตือนจากฝ่ายปกครองหรือทหาร เราสามารถดำเนินการทันที" นายสุทธิพงษ์ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลสัตว์ในขณะนี้ แต่สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่บางส่วน โดยเบื้องต้น ทางสถานีฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงและเด็กออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว คงเหลือเพียงเจ้าหน้าที่ผู้ชายที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ดูแลสัตว์ภายในสถานีฯ ในส่วนของการเตรียมความพร้อมสำหรับการเคลื่อนย้ายสัตว์นั้น สถานีฯ ได้จัดเตรียมกรงสำหรับเคลื่อนย้าย เสือโคร่ง 15 ตัว และเสือดาว 1 ตัว ไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ได้ประสานงานกับสวนสัตว์อุบลราชธานี และวางแผนการเคลื่อนย้ายสัตว์ไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสัตว์ทุกตัวจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายจริง.