จับกระบะ 3 คัน ขน 48 แรงงานเถื่อน ซุกสวนยาง คนขับอาศัยความมืดหลบหนี
ฉก.ลาดหญ้า -นอภ.ทองผาภูมิ - ตำรวจร่วมปฏิบัติการ "SEAL STOP SAVE" จับกระบะ 3 คัน ขน 48 แรงงานเถื่อน ซุกสวนยาง คนขับอาศัยความมืดหลบหนี
18 กรกฎาคม 2568 นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ นายกฤษฎา มูลสวัสดิ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทราบ จากนั้นนายอธิสรรค์ จึงสั่งการให้นำกำลังปฏิบัติการ "SEAL STOP SAVE" ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างเคร่งครัด
โดยนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ นายกฤษฎา มูลสวัสดิ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ได้นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอทองผาภูมิ ที่ 9 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ ตชด.135 สนธิกำลังลาดตระเวนไปตามเส้นทางต่างๆในพื้นที่เพื่อสกัดจับ
จนกระทั่งเวลา 22.00 น.เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 3 คันจอดเรียงกันอยู่ภายในสวนยางพาราท้องที่หมู่ 2 บ้านเกริงกระเวีย ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ ท่ามกลางความมืด จึงเชื่อได้ว่าเป็นขบวนการขนแรงงานโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อมเอาไว้และสังเกตพบว่ามีแรงงานเป็นจำนวนมากอยู่ภายในรถยนต์ทั้ง 3 คัน เมื่อได้จังหวะเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณเข้าจับกุม ระหว่างนั้นคนขับรถยนต์ทั้ง 3 คันเกิดไหวตัวทันจึงเปิดประตูรถแล้วอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่ได้พยายามไล่ติดตามแต่ไม่ทัน
จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร และรถยนต์ 7 ที่นั่งยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มคันรถ รวม 48 ราย เป็นชาย 38 ราย หญิง 10 ราย ตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระพบเพียงเสื้อผ้าและอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆแต่อย่างใด โดยแรงงานทั้งหมดไม่มีเอกสารสารการอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร อีกทั้งสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมรถยนต์ของกลางมาที่ สภ.ทองผาภูมิ เพื่อสอบปากคำ
จากการสอบปากคำผ่านล่าม กลุ่มแรงงานให้การว่า พวกตนไม่ใช่ทหารหนีทัพ แต่เป็นแรงงานชาวเมียนมา หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนด้านอำเภอสังขละบุรี ที่มีชายอดนติดกับอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา เมื่อลักลอบเข้ามาได้มีผู้นำพาที่เป็นชาวเมียนมาด้วยกันนำพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางถนนสาย 323 จากนั้นมาลงเรือที่บริเวณท่าน้ำหินสามกองแม่น้ำซองกาเลีย อ.สังขละบุรี เมื่อมาขึ้นฝั่งที่จุดนัดพบได้มีรถยนต์มารับแล้วนำพาพวกตนมาส่งที่จุดพักคอยภายในสวนยางพาราท้องที่หมู่ 2 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ พวกตนหลบซ่อนตัวรอจนกระทั่งรถยนต์จำนวน 3 คันมารับ
กลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามว่า พวกตนทั้งหมดมีจุดหมายปลายทางไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย เมื่อถึงสถานที่ทำงานพวกตนจะต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 18,000 บาท แต่ระหว่างขึ้นรถเพื่อเตรียมเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนคนขับรถยนต์ทั้ง 3 คน เห็นเจ้าหน้าที่เสียก่อนจึงสามารถหลบหนีไปได้ ทิ้งให้พวกตนที่ไม่รู้พื้นที่และเส้นทางในการหลบหนีถูกจับกุมตัวทั้งหมด
หลังจากกลุ่มแรงงานให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”ส่วนรถยนต์ของกลางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ครอบครอง จากนั้นจะได้เรียกตัวมาสอบปากคำ หากเจ้าของรถยนต์ทั้ง 3 คันมส่วนเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพจาก สำนักข่าวกาญจน์ - Kanchanaburi News