ไร้หนทางในชีวิต สมิธ ภาสวิชญ์ เปิดใจตระเวนแคสงาน 4 ปี แต่ไม่เคยได้สักงาน พร้อมเผยสถานะหัวใจ
เรียกได้ว่า ตอนนี้กำลังมาแรงมากๆ อย่าง สมิธ ภาสวิชญ์ เป็นนักแสดงและนักร้องชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ล่าสุด ได้มาออกรายการ คุยแซ่บshow เปิดใจตระเวนแคสงาน 4 ปี แต่ไม่เคยได้สักงาน ต้องอยู่กับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้สึกไร้หนทางในชีวิต สู่พระเอกดาวรุ่งมากความสามารถ พร้อมเปิดเรื่องหัวใจ โดยได้เผยว่า
เห็นว่าแคสซีรีส์ไปมีโมเดลลิ่งติดต่อมาเยอะเลย?
สมิธ : ช่วงนั้นแคสเยอะมาก ไม่ได้เลยสักงาน ผมว่าคาแร็คเตอร์อาจจะยังไม่ตรงด้วย บวกกับความมั่นใจด้วยก็รู้ตัวว่าตอนไปไม่ได้แน่เลย แล้วก็ไม่ได้จริงๆ
ประมาณกี่งานที่ไปแคสในตอนนั้น?
สมิธ : ถ้ารวมโฆษณา หนัง ผมว่ามี 20 ขึ้น
พอแคสเยอะแบบนี้แล้วไม่ได้งานด้วย มีช่วงท้อไหม?
สมิธ : มีครับ จริงๆ ท้อทุกครั้งที่เขาบอกว่าไม่ได้ ก็รู้สึกว่าเราเกิดมาเพื่อเรียนรู้ ไม่ใช่วันนึงเดี๋ยวเราก็ได้ ผมก็ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่ก็รู้สึกว่าทุกครั้งที่ไปมันจะได้อะไรกลับมา ได้เรียนรู้อะไรเล็กๆ น้อยๆ จากสิ่งเหล่านี้มาเรื่อยๆ
ทางครอบครัวซัพพอร์ตไหม? สมิธ : ซัพพอร์ตตลอดครับ เขามั่นใจในตัวผมมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำในตอนนั้น
พอเราแคสเยอะๆ แล้วไม่ได้งาน คุณพ่อ คุณแม่ให้กำลังใจยังไง? สมิธ : เขาบอกท้อทำไม กูเป็นคนขับ
สุดท้ายได้เซ็นสัญญา? สมิธ : กับช่องใช่ไหมครับ พี่ปิ๊ก ฌาณฉลาด เป็นคนพาให้มารู้จักกับช่อง3
เซ็นไปทั้งหมดกี่ปี? สมิธ : ตอนแรก เซ็น 3 ปีครับ
3 ปีมีงานเยอะไหม?
สมิธ : ไม่มีครับ มันมีโปรเจ็กต์ที่เป็นวงดนตรี 1 โปรเจ็กต์ ตอนนั้นเราผมยาวด้วย บวกความติสท์เด็กๆ อยากไว้ผมยาว ละครก็เลยไม่มีเลย เพราะไม่มีเรื่องไหนที่ผมยาว
เห็นว่าได้เปิดวง มีงานเดียว แล้วปิด มันเกิดอะไรขึ้น?
สมิธ : เปิดแล้วก็ปิดเลย ตอนนั้นชื่อวง the fins ด้วยแต่ละคนมีเส้นทางของตัวเองก็เลยแยกย้ายกันไป ทำได้เพลงเดียวแล้วแยกย้ายเลย
สุดท้ายได้เล่นละคร เรื่องนี้ทำน้ำตาซึมเลย?
สมิธ : โดนตัดผมครับ ไว้มาตั้ง 2 ปีเสียดาย แต่ก็ดีใจด้วย พอพี่คิงผู้กำกับบอกว่าให้มาเล่น เราก็พูดไม่ถูกเหมือนกัน ถ้าพูดตั้งแต่เริ่มจริงๆ จนวันที่ได้ก็เกือบ 5 ปีที่เราจะได้เล่นละครเรื่องแรก.
6 เดือนที่อยู่จีน เห็นว่าเป็นช่วงที่ดาวน์หนักมาก?
สมิธ : อยู่รายการ 3 เดือนแรก พอออกมาปุ๊บ โควิดด้วยแล้วกลับไทยไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อ มันด้วยบรรยากาศด้วย
ตอนที่อยู่จีนทราบมาว่ามีสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารด้วย?
สมิธ : ยังครับ ได้แต่คิด ก่อนหน้านั้นมีไปขายเสื้อผ้ากับผู้จัดการ แล้วเรารู้สึกว่าอยากฝึกภาษา ตอนนั้นผมอยู่ กว่างโจว เลยไปหาร้านที่นั้น มีร้านไทยไหมที่สามารถให้เราไปทำงาน จริงๆ เราไม่ได้คิดอะไร เราอยากไปฝึกภาษา เขาบอกไม่ได้เพราะเราเป็นวีซ่าแบบท่องเที่ยว
ล่าสุดได้เป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก?
สมิธ : วันนั้นหลายอย่างมากครับ มันตรงกับงานช่องพอดี ที่ช่องจะมีแข่งฟุตบอล พอกลับบ้านมาก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกว่าได้เป็นพระเอกนะ
ตอนนี้งานรุม แล้วสาวรุมไหม?
สมิธ : ผมไม่รู้ไงว่าเขาจีบหรือเปล่า เขา DM มานี่แหละ ผมไม่รู้ว่าเขาแซวหรือเปล่า หรือมาคุยเล่น เวลาผมลงอะไรไปเขาก็มาคอมเมนต์ ผมว่าน่าจะปกติ น่าจะคิดเยอะไปเอง
สรุปตอนนี้ยังโสดอยู่? สมิธ : ครับ ยังโสดอยู่