โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘ประเสริฐ’ เผย ผลการบังคับใช้ ‘พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์’ 3 เดือนยับยั้งมูลค่าความเสียหายได้แล้ว 5.8 พันล้านบาท

WeR NEWS

เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามที่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2568 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะการปราบปรามการก่อเหตุของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการหลอกลวงทางออนไลน์ที่มีผลกระทบต่อประชาชน โดยยกระดับ ‘ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC)’ เป็น ‘ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี’ หรือ ศปอท. ซึ่งเป็นกลไกหลักในการรับแจ้งเหตุ รับคำร้องทุกข์ สั่งระงับธุรกรรมทางการเงิน ประสานงานวิเคราะห์ข้อมูล และสามารถดำเนินคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัจจุบัน ศปอท. ได้บูรณาการข้อมูลร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ฯลฯ ซึ่งมีผลทำให้การดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ปรากฎเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

สำหรับผลการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงวันที่ 14 เมษายน – 20 กรกฎาคม 2568 (ระยะเวลา 3 เดือนหลังบังคับใช้ พ.ร.ก.) สามารถดำเนินการปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์จำนวน 19,676 URLs และแพลตฟอร์มหลอกลวงจำนวน 14,143 URLs พร้อมระงับบัญชีธนาคารได้เป็นจำนวน 181,989 บัญชี

ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ ศปอท. สามารถจัดการคดีอาชญากรรมออนไลน์ได้แล้วจำนวน 88,995 คดี ช่วยยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงประชาชนได้เป็นจำนวน 5,895.96 ล้านบาท

ขณะเดียวกันกระทรวงดีอี ยังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในกระบวนการปิดกั้นเว็บไซต์ ซึ่งสามารถตรวจสอบ URLs ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายได้รวดเร็ว (เทียบเท่าการทำงานโดยเจ้าหน้าที่จำนวน 94 คน) ช่วยลดขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาลลงได้ 5 วันทำการ และคาดว่าจะเพิ่มจำนวน URLs ที่ถูกสั่งปิดในปี 2568 ได้ถึงร้อยละ 70.7 (โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นวันละ 175 URLs)

อย่างไรก็ตาม พ.ร.ก.ดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถบูรณาการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการกำหนดให้หน่วยงานเอกชนมีส่วนร่วมรับผิดในความเสียหาย เกิดการป้องกันการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่รัดกุม ซึ่งที่ผ่านมาสามารถลดมูลค่าความเสียหายได้อย่างมีนัยสำคัญอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังกำหนดมาตรการที่จะช่วยเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของมิจฉาชีพ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก WeR NEWS

8 ยอดฝีมือจาก “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์” เกาะขอบ “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 153 เมเจอร์เก่าแก่ที่สุดของโลก พร้อมออกรอบที่ลอนดอน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ITD รับลูกพาณิชย์! ผนึกพันธมิตรทั่วอาเซียน ระเบิดเวที ‘Regional Trade Exponential Fest 2025’ ปลุกพลังธุรกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ASEAN Youth Speech Contest 2025 : Future of ASEAN: Thriving Together in a Changing World

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การประกวด ASEAN Youth Speech Contest 2025 หัวข้อ Future of ASEAN : Thriving Together in a Changing World

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

พรรคเพื่อไทยประณามเหตุวางระเบิดชายแดนกัมพูชา ชี้ละเมิดสนธิสัญญาออตตาวา หนุนรัฐบาลตอบโต้ตามหลักสากล

สยามรัฐ

เปิด 5 รายชื่อ ผู้บาดเจ็บ เหตุเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องอานม้า

THE ROOM 44 CHANNEL

แฉชื่อ ผบ.พันเขมรอยู่เบื้องหลังวางระเบิด! ซัดพฤติกรรมล้ำแล้วกลบ ถอยแล้วปฏิเสธ

ไทยโพสต์

‘ชัยชนะ‘ บุกข้าวสาร! ลั่น หากพบผิดซึ่งหน้าเอาผิดทันที – ไม่ละเว้น

THE ROOM 44 CHANNEL

“วินธัย” ซัด กัมพูชา ไร้สัจจะ ลอบวางระเบิด มั่นใจอยู่ในกติกายังสามารถเอาชนะได้

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

พรมแดนช่องสะงำ ปิดแล้ว หลังกองทัพ สั่งปิด 4 ด่าน ตอบโต้กัมพูชา วางระเบิดช่องอานม้า

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม