โจ ยมนิล ทุ่มทุนสร้างหนัง คายอ้อ กว่า 30 ล้าน เผยเบื้องหลังความเชื่อหมอลำ
โจ ยมนิล ทุ่มทุนสร้างหนัง คายอ้อ กว่า 30 ล้าน เผยเบื้องหลังความเชื่อ ความศรัทธาหมอลำ สร้างปรากฏการณ์มรดกอีสาน
ทุ่มเทสุดฝีมือด้วยเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของลูกอีสาน สำหรับหัวเรือใหญ่วงสาวน้อยเพชรบ้านแพง โจ ยมนิล นามวงษา หรือ บอสโจ ผู้คร่ำหวอดในวงการหมอลำมาทั้งชีวิต ที่ล่าสุดทุ่มทุนสร้างหนังหมอลำครั้งแรก กับภาพยนตร์เรื่อง “คายอ้อ ลบหลู่ ศรัทธา อาถรรพ์” เข้าฉาย 17 ก.ค. นี้
โดย บอสโจ ได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิง ถึงเบื้องลึก เบื้องหลัง แรงบันดาลใจในการทำหนัง ซึ่งทุ่มทุนกว่า 25 ล้าน ตีแผ่เบื้องหลังความเชื่อ ความศรัทธาของวงการหมอลำ หวังสร้างปรากฏการณ์มรดกอีสาน
จากทำวงหมอลำ ทำไมถึงอยากทำหนัง? “มันเป็นความฝัน สมัยเด็กเคยไปดูหนังกลางแปลงส่วนมากดูไม่จบเรื่อง หลับก่อน ตื่นขึ้นมาเห็น End Credit ชื่อผู้อำนวยการสร้าง รายชื่อนักแสดงไล่ลงมา มีช่วงหนึ่งอยากเป็นผู้อำนวยการสร้าง เคยเล่นกับเพื่อนสมัยเป็นเด็กทำจอเล็กๆ อยากทำหนัง แล้วความฝันนั้นก็หายไป ไม่คาดคิดว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ถือว่าเป็นการต่อยอดของสาวน้อยเพชรบ้านแพง”
“หลังจากที่ผมกลับจากเมืองนอกมาทำวงหมอลำ เป็นผู้บริหารเต็มตัวปีนี้ปีที่ 10 พอดี ทำหมอลำสำเร็จประมาณนึงแล้วมาต่อยอดทำรถแห่ถือว่าอยู่ตัวแล้ว สาวน้อยเพชรบ้านแพงวง1 ประมาณ 300 ชีวิต ทำวงสาวน้อย2 มี 200 ชีวิต ต่อยอดจนมาถึงการทำหนัง มันเป็นความท้าทายในชีวิตของผมมาก ผมยังมีกำลัง ความคิด มันสมองที่จะสร้างงานในจุดนี้เลยตัดสินใจทำหนังครับ”
ทำไมถึงอยากนำเสนอเรื่อง “คายอ้อ” หลายคนไม่รู้จักคืออะไร? “คายอ้อ หลายคนถามมาเยอะมาก คายอ้อ คืออะไร คาย คือเครื่องสักการะบูชา ขันธ์5 ขันธ์8 ส่วนอ้อคือคาถากำกับ รวมกันแล้ว คายอ้อ คือเครื่องสักการะบูชาที่เหล่าบรรดาศิลปินก่อนขึ้นเวทีจะทำการเคารพกราบไหว้ท่องคาถาระลึกนับถือถึงครูบาอาจารย์ก่อนขึ้นเวที”
“ที่นำคำว่า คายอ้อ มาตั้งเป็นชื่อหนัง ส่วนหนึ่งที่ผมสำเร็จในชีวิตการเป็นศิลปิน การเป็นผู้บริหาร คือการที่เราเชิดชูครูบาอาจารย์ ก็เลยอยากจะนำคำว่า คายอ้อ มาตีแผ่ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่ายังมีกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ในภาคอีสานที่มีความเชื่อ ความศรัทธาคำว่าคายอ้อ มีทั้งหมอลำกลอน หมอลำซิ่ง รถแห่ต่างๆ เขามีคายอ้อกันหมด หมอลำมีคายอ้อแทบทุกคณะก็ว่าได้ แต่คายอ้อเครื่องสักการะจะแตกต่างกันแต่ละวง ในยุคนี้มันเป็นจังหวะที่หมอลำฟีเวอร์พอดี เราก็อยากนำเสนอศิลปะวัฒนธรรมของอีสาน นั่นก็คือ คายอ้อหมอลำ”
“เบื้องหน้าความสวยงามที่ทุกคนเห็น อยู่ข้างหลังเวทีเป็นอีกแบบหนึ่ง พอขึ้นเวทีมีออร่าจับ ยกตัวอย่างอุ๋งอิ๋ง ก่อนขึ้นเวทีเขาจะเป็นเหมือนเด็กทั่วไปอยู่ท้องไร่ท้องนา แต่พอขึ้นเวทีจะกลายเป็นอีกคนคนหนึ่ง เพราะไหว้คายอ้อ ได้รับคายอ้อ อ้อของสาวน้อยเพชรบ้านแพงคืออ้อดีครับ เขาเรียกว่าออร่าจับ มันเป็นความเชื่อของเหล่าบรรดาศิลปิน ไม่เห็นไม่ใช่ว่าไม่มี ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่”
ฟีดแบ๊กจากแฟนๆ ที่ได้เห็นมู้ดของหนังเป็นแนวลี้ลับ? “ผมอ่านแทบทุกคอมเมนต์ทุกแพลตฟอร์ม รู้สึกประทับใจ ตื้นตันใจกับคำว่าดีเกินคาด ดีเกินกว่าที่คิดไว้สำหรับหนังอีสาน แล้วเป็นหนังหมอลำ ผมเป็นผู้สร้างทำหนังเรื่องแรกด้วย”
ทุ่มทุนสร้างมากกับหนังเรื่องแรก? “ผมอาจจะเป็นคนบ้างาน ถ้าจะทำก็ทำแบบบ้าระห่ำไปเลย หลายคนที่ติดตามผมจะรู้ว่าที่ชีวิตผมสำเร็จมาทุกวันนี้ได้ เพราะผมทำอย่างจริงจัง ทำต่อเนื่อง ทำอย่างสุดฝีมือ ทำสุดความสามารถ แม้กระทั่งโปรเจ็กต์ชิ้นโบว์แดงกับหนังเรื่องนี้ คายอ้อ ที่จะเข้าฉายวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ ผมทำสุดฝีมือ จนช่วงหลัง 3-4 เดือนนี้ ผมแทบจะไม่ได้ไปวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง อยู่กับหนังทุ่มเทให้หนังตั้งแต่ช่วงอ่านบท เขียนบท ผมอาจจะไม่เก่งแต่โชคดีที่ผมมีคนเก่งๆ มาร่วมงานกัน ผมไม่เคยทำหนังมาก่อนก็จริง แต่คนที่อยู่ข้างกายผมมีแต่คนมีคุณภาพ”
มีประสบการณ์ในวงการหมอลำ แต่กับการทำหนังยังถือว่าใหม่? “ผมได้ประสบการณ์สิ่งหนึ่งมาจากหมอลำในการทำหนัง ก็คือบท หรือโครงหนัง ก่อนทำหนังผมเห็นคำนี้เก็บไว้อยู่ในใจตลอด คำว่า หนังไทยส่วนมากตายเพราะบท ผมก็เลยเปรียบกับหมอลำ ถ้าบทดี เรื่องลำดี เส้นเรื่องดี ปีนั้นลำเรื่องนั้นจะดึงคนดูได้เยอะจนถึงสว่าง คนจะสนุกจนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ถ้าบทไม่ดีเรื่องไม่ดี ก็จะดึงคนดูได้น้อยเขาก็กลับตั้งแต่หัวค่ำ เหมือนกับการทำหนัง ผมเอาประสบการณ์ของหมอลำมาทำบทหนัง กว่าจะเป็นบทหนัง ร่างแล้วร่างอีก โครงใหญ่ของเรื่องมาจากผมซึ่งอยู่ในวงการหมอลำมาตั้งแต่เล็ก เห็นวิถีชีวิตหมอลำจนมาถึงวันนี้มีโอกาสได้ทำ โครงเรื่องใหญ่ก็มาจากเรา แต่ในเรื่องของบทภาพยนตร์ ต้องขอบคุณพี่เอี้ยง สวนีย์ ผู้เขียนบทครับ”
กว่าจะได้ผู้กำกับฯ ‘ใหม่ ภวัต’ ผ่านอุปสรรคมาเหมือนกัน? “กว่าจะมาเจอพี่ใหม่ เป็นธรรมดาที่อุปสรรคไม่มีบารมีไม่เกิด เส้นทางของผู้นำทัพย่อมมีบาดแผลเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอ หนทางประสบผลสำเร็จมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันต้องเจออุปสรรคต่างๆ นานา สร้างให้เราแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันให้เราต้องแก้ปัญหา จากผู้กำกับฯ คนแรกที่เราลงทุนคาดไว้ว่า 10 ล้านบาท แต่จนมาถึงพี่ใหม่ ภวัต เรามองว่าคงเป็นงานระดับประเทศ เป็นงานโกอินเตอร์แล้ว เราก็เลยเพิ่มเม็ดเงินเข้าไปทำให้มันแมสทั่วประเทศเป็นมหาชน ตอนนี้ 25 ล้านบาท งบในการลงทุนทำหนังเรื่องนี้ เท่ากับผมทำวงหมอลำได้อีกหนึ่งวงเลย”
มีคนถามมั้ยว่าบ้าระห่ำขนาดนี้เพื่ออะไร? “บางคนด่าผม ว่าผม มึงหาเงินไปทำไมเพื่อจะทำอันนั้นอันนี้ แต่ก็ขอบคุณทุกความหวังดีนะครับให้เราดูแลสุขภาพ บางคนก็ว่าหาแต่เงินก็มีแล้วไง แต่สำหรับผมเงินเอาไว้ทีหลัง ไม่ใช่ว่าผมร่ำรวยนะครับ ผมอยากจะนำวัฒนธรรมศิลปะอีสานมาตีแพร่ให้กับคนวงกว้างได้เห็นว่าหมอลำของเราฟีเวอร์ แม้กระทั่งตัวผมถ้าพูดแบบไม่อวยตัวเอง เราเป็นผู้นำโซเชียลของวงการหมอลำ สาวน้อยเพชรบ้านแพงเราทำก่อนใครมีผู้ติดตาม 2.7 ล้านคนทางยูทูบ โชคดีที่เราทำมาก่อนทั้งเพจและยูทูบ
แต่ก่อนคนในวงการหมอลำจะว่าผมบ้า แล้วยังมาทำหนังอีก ถ้าทำสำเร็จทำออกมาดี เงินจะตามมาทีหลัง แต่สิ่งที่ท้าทายคือผมยังมีมันสมอง ผมยังมีทุน ซึ่งหนังเรื่องนี้ผมต้องใช้ทุนกับเพื่อนและกับพันธมิตร มากกว่าเงินคือพันธมิตรคอนเน็กชั่นที่จะมาร่วมสร้างตรงนี้ และมันเป็นสิ่งที่ท้าทายกับชีวิตของผมมาก ความเป็นมนุษย์ของผมมันยังมีคุณค่าที่จะสร้างตรงนี้ได้ ผมสามารถทำได้ ผมก็ทำ คิดแล้วทำเลย”
ลงทุนไป 25 ล้าน คาดหวังกับรายได้หนังเท่าไหร่? “ขอให้ไม่ขาดทุนก็พอหรือวันนั้นถ้าขาดทุนจริง ก็ไม่เป็นไร เราได้ทำแล้ว เราได้เสนอศิลปะวัฒนธรรมอีสาน ผมคือเลือดหมอลำ ผมคือลูกหมอลำ ผมอยากให้คนต่างอาชีพได้เห็นว่าลูกหมอลำ ศิลปินหมอลำ ก่อนที่ทุกคนจะได้เห็นความสวยงามบนเวที เพราะทุกคนเห็นแค่บนเวที ชื่นชอบในผลงานแต่ไม่รู้ว่าเบื้องหลังเขาลุ้มลุกคลุกคลานมาขนาดไหนกว่าจะมาถึงวันนี้”
มีบรมครูแวดวงหมอลำ ดาราศิลปินลูกทุ่งมารวมตัวในเรื่องนี้ แต่ละคนคิวยากแค่ไหน? “คิวยากมาก คือมีแต่ตัวท็อปๆ ทั้งหัวหน้าวง ทั้งศิลปิน อินฟลูฯ หลายท่าน ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านนะครับ คารวะในหัวใจของทุกท่านที่มาร่วมสร้างงานด้วยกันในเรื่องนี้ หัวหน้าวงก็ต้องยอมทิ้งงานวงในวันนั้นถ้ามีคิวเพื่อจะมาถ่ายทำภาพยนตร์ ผมมองว่าหนังเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นหนังของวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง มันเป็นหนังของวงการหมอลำ และมันเป็นวาระใหญ่ของคนอีสานเพราะผมทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่าผมมีเงินแล้วผมอยากทำเล่นๆ ไม่ใช่ว่าผมได้รับเงินมาจากส่วนต่างๆ แล้วมาทำเป็นความสุขส่วนตัวผม ไม่ใช่ ผมทำอย่างจริงจัง ผมอยากทำงานชิ้นนี้เพื่อเป็นมรดกอีสาน หนังเรื่องนี้ต้องเป็นหนังปรากฏการณ์เป็นอีกหนึ่งมรดกอีสานที่จารึกไว้ในแผ่นดินอีสาน ครั้งหนึ่งในชีวิตของผมที่ได้ทำโปรเจ็กต์นี้มาจากจิตวิญญาณเลือดหมอลำของผมที่ทุ่มเทให้กับภาพยนตร์ คายอ้อ”
ปล่อยเพลง คายอ้อ เพลงประกอบภาพยนตร์ คาถาที่ใช้ร้องในเพลงมาจากไหน? “เป็นคาถาจริงที่ผมพูดในการสวดมนต์ไหว้พระร่ายคาถานี้ พาลูกทีมท่องคาถานี้ในวันที่สวดมนต์ไหว้พระ ซึ่งเราได้รับคาถานี้มาจากปู่สนชัย ครูคายอ้อใหญ่ที่เราเคารพนับถือกราบไหว้ ศิลปินทุกคนก่อนขึ้นเวทีแสดงจะท่องคาถานี้ เราก็อัญเชิญคาถานี้มาสู่เพลงคายอ้อด้วย เพื่อความขลังศักดิ์สิทธิ์ และความสมจริง
ปล่อยวันแรก ติด 2 ในมาแรงยูทูบประเทศไทย ขอบคุณทุกคอมเมนต์ทุกไลก์ ดีเกินคาด ขนาดผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ผมยังทุ่มทุนเกือบครึ่งล้าน ใช้วงดนตรีจากดุริยางค์กองทัพอากาศ วงออร์เคสตรา โดย อ.จินนี่ ภูไท เป็นคนเรียบเรียง ท่านพูดเลยว่าเพลงนี้ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ท่านเรียบเรียงเพลงมา คำร้องทำนองโดย อ.ยุ้ย มานะศักดิ์ กำกับเอ็มวีและโปรดักชั่น โดย เฮียป่อง ไทบ้านเดอะซีรีส์ ควบคุมการร้องและโปรดิวเซอร์ โดย ทนายเอ กิตติศักดิ์ ทุ่มเททุกกระบวนการ บริบทของคำว่าคายอ้อ มันทำเล่นๆ ไม่ได้ เราต้องจัดเต็มสุดฝีมือ”
ฝากหนัง? “ในฐานะของคนอีสาน ผมคิดว่าจิตวิญญาณของคนอีสาน ลูกอีสาน ถ้าเป็นวาระใหญ่ของคนอีสาน ผมคิดว่าคงจะไม่ทิ้งกัน แล้วก็เอฟซีตามภูมิภาคอื่นๆ แฟนๆ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ที่ไม่เคยรู้คำว่าคายอ้อ ผมทำสุดฝีมือ คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นหนังปรากฏการณ์ของหนังอีสาน เป็นหนังที่ดีของไทยอีกหนึ่งเรื่อง ขอพลังจากคอหนัง แฟนเพลง แฟนหมอลำ พอเห็นข้อความนี้รู้สึกตื้นตันใจ ที่บอกว่าไม่เข้าโรงหนังมาแล้ว 20 ปี จะเข้าโรงหนังเพราะอยากดูเรื่องนี้ มันเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจให้ผมมีแรงสู้มาก มีแรงทำงาน อยาทิ้งกันขอพลังจากคนไทยทั้งประเทศ ภาพยนตร์เรื่องคายอ้อ ลบหลู่ ศรัทธา อาถรรพ์ วันที่ 17 กรกฎาคม ในโรงหนังทั่วประเทศครับ”.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : โจ ยมนิล ทุ่มทุนสร้างหนัง คายอ้อ กว่า 30 ล้าน เผยเบื้องหลังความเชื่อหมอลำ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th