กรมพัฒน์เผยธุรกิจ Bio-Innovation มาแรง เติบโตสูงทั้งการลงทุน รายได้
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าวิเคราะห์ธุรกิจดาวเด่น พบธุรกิจ Bio-Innovation ที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพและนวัตกรรมมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ มีโอกาสขยายตัวสูง พบมีการลงทุนเปิดบริษัทใหม่เพิ่มขึ้น เงินลงทุนมากขึ้น และมีรายได้เติบโตขึ้นต่อเนื่อง ส่วนต่างชาติก็สนใจเข้ามาลงทุนเช่นเดียวกัน ชี้ไทยมีโอกาสมาก เหตุมีความได้เปรียบด้านวัตถุดิบ บุคลากรพร้อม มีเทคโนโลยี
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ทำการวิเคราะห์ธุรกิจดาวเด่นประจำเดือน พ.ค.2568 พบว่า ธุรกิจ Bio-Innovation มีความโดดเด่นและน่าสนใจอย่างมาก โดยเป็นการผสมผสานระหว่าง Biotechnology หรือเทคโนโลยีชีวภาพ และ Innovation หรือนวัตกรรม โดยใช้วิทยาศาสตร์ชีวภาพมาประยุกต์ให้เกิดเป็นนวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ จนกลายเป็นธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและมีความสำคัญต่อการสร้างความเติบโตของธุรกิจไทย โดยเฉพาะด้านการแพทย์ เกษตร อาหาร และอุตสาหกรรม เช่น เส้นใยสังเคราะห์จากจุลินทรีย์ที่มีความแข็งแรงสูงเทียบเท่าไนลอน อาหารเลี้ยงสัตว์ที่มีโปรตีนสูงผลิตจากหนอนแมลงวันลาย การลดปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลไม้เป็นส่วนประกอบ พลาสติกที่ผลิตจากอ้อยและมันสำปะหลังย่อยสลายได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปี 2024 ทั่วโลกมีการแข่งขันในธุรกิจนี้สูงมาก สร้างมูลค่าอุตสาหกรรมกว่า 1.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 6 ประเทศที่เป็นหลักในอุตสาหกรรมนี้ คือ สหรัฐฯ จีน เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักร ส่วนไทย มีมูลค่าอุตสาหกรรมประมาณ 0.7% ของโลก โดยระหว่างปี 2024-2030 จะมีสัดส่วนมูลค่าอุตสาหกรรมเติบโตอยู่ที่ 13.6% ต่อปี และคาดการณ์ว่าในปีอีก 5 ปีข้างหน้าหรือปี 2030 จะมีมูลค่าสูงถึง 8,284 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 268,573 ล้านบาท
สำหรับนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจ Bio-Innovation ในประเทศไทย ในปี 2024 (ณ วันที่ 31 พ.ค.2568) มีจำนวน 389 ราย เพิ่มขึ้น 13.08% มูลค่าทุนจดทะเบียน 9,576 ล้านบาท โดยธุรกิจส่วนใหญ่จัดตั้งในขนาดเล็ก (S) จำนวน 358 ราย คิดเป็น 92.03% ขนาดกลาง (M) จำนวน 30 ราย คิดเป็น 7.71% และขนาดใหญ่ (L) จำนวน 1 ราย คิดเป็น 0.26% รวมถึงจัดตั้งในรูปแบบบริษัทจำกัดมากที่สุดจำนวน 382 ราย คิดเป็น 98.20% ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด จำนวน 5 ราย คิดเป็น 1.29% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 2 ราย คิดเป็น 0.51%
อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์สัดส่วนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ Bio-Innovation ในเชิงลึก จะเห็นได้ว่ารอบ 5 ปีที่ผ่านมา (2563-2567) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีการจัดตั้ง 59 ราย เพิ่มขึ้น 11.32% และ 5 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-พ.ค.) มีการจัดตั้งใหม่จำนวน 30 ราย เพิ่มขึ้น 57.89% มูลค่าทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 511% โดยปัจจัยที่เป็นส่วนสำคัญทำให้การจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่เป็นตัวแปรสำคัญของธุรกิจ รวมทั้งปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในเชิงอุตสาหกรรมมากขึ้น ส่วนการลงทุนของต่างชาติในธุรกิจ Bio-Innovation มีมูลค่า 3,881 ล้านบาท สัญชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ฮ่องกง มูลค่า 1,074 ล้านบาท คิวบา มูลค่าการลงทุน 683 ล้านบาท และ ญี่ปุ่น มูลค่า 649 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการธุรกิจ Bio-Innovation สร้างรายได้สูงต่อเนื่อง ปี 2566 มีรายได้อยู่ที่ 6,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.16% และจากข้อมูลทางด้านการเงิน พบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สินทรัพย์รวมของธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2566 มีสินทรัพย์รวมกว่า 12,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.27% จากปี 2562 ที่มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 5,637 ล้านบาท สะท้อนถึงนักธุรกิจได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นเพื่อหวังผลการเติบโตในระยะยาว
“โอกาสของธุรกิจ Bio-Innovation ในประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพมากและยังรอการลงทุนจากนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ โดยปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนนักลงทุนไทยและมีความได้เปรียบทางการตลาด มาจากไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงเป็นแหล่งเพาะปลูกพืช สัตว์และพืชเศรษฐกิจของไทยอย่าง ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการนำไปใช้ในธุรกิจ มีบุคลากรที่มีความพร้อมและโครงสร้างพื้นฐานในการวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ตลาดโลกมีความต้องการด้านผลิตภัณฑ์ชีวภาพอย่างปุ๋ย อาหารเสริม เคมีภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าในประเภทนี้อย่างมาก ธุรกิจนี้ถือเป็นธุรกิจประเภท BCG ที่อยู่ในยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศของรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการเติบโต และปัจจุบันภาคเอกชนให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สินค้า สร้างความหลากหลาย ลดต้นทุนการผลิต และเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก”นางอรมนกล่าว
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO