Insight Talk — hello moto! การกลับมาของแบรนด์ระดับตำนาน ‘Motorola’
อีพีนี้ผมมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ "Motorola" (โมโตโรล่า) แบรนด์มือถือที่เปรียบเหมือนคุณครูคนแรกของผมและอีกหลายคนในวงการมือถือ สำหรับผมเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นความสนใจและเข้ามาคลุกคลีกับมือถืออย่างจริงจังเลยก็ว่าได้ครับ ตอนที่มีมือถือแอนดรอยด์เครื่องแรกเป็นของตัวเอง ก็คือ "Motorola Defy" จำได้เลยว่าหลังจากซื้อมาก็เริ่มศึกษาการลง Custom ROM จริงจัง จนเขียน ROM เองกับเพื่อน ๆ ในคอมมูนิตี้ และหลังจากนั้นก็ยาวเลย
→ Insight Brand — 'Motorola' แบรนด์ตำนานที่ยังมีลมหายใจ
กลับมาที่ Motorola ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นแบรนด์ที่รุ่งเรืองมาก และเป็นคู่แข่งสำคัญของ Nokia ในยุค 90s เลยทีเดียว แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและการปรับตัวที่อาจจะพูดได้ว่า 'ไม่ทัน' ของ Motorola จึงทำให้แบรนด์ค่อย ๆ เลือนหายไป และถูกเข้าซื้อกิจการพร้อมกับสิทธิบัตรที่เคยมีมากมาย เพื่อแลกกับลมหายใจของธุรกิจ หลังจากนั้น Motorola ก็ยังคงมีความพยายามที่จะกลับสู่ตลาดมือถืออีกหลายครั้ง รวมถึงในไทยด้วยเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ และเงียบหายไปนานหลายปี
เรื่องราวที่เกิดขึ้นเปรียบเหมือนพายุที่โหมกระหน่ำใส่ Motorola จนยืนไม่ขึ้น แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้พายุที่รุนแรงเหล่านั้น กำลังเคลื่อนตัวออกไปจาก Motorola หลังกลับมายึดอันดับ 3 ของตลาดมือถือไตรมาสล่าสุดในสหรัฐฯ ได้เป็นครั้งแรก และมีตัวเลขยอดขายดีขึ้นมากในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา และอินเดีย
ทำไม Motorola ถึงกลับมาผงาดในตลาดมือถือได้อีกครั้ง? วันนี้ผมมีเรื่องจากข้อมูลจริงมาเล่าให้ชาว Insight Daily และแฟนๆ โมโตได้ทราบกันครับ!
ถ้าพูดถึงแบรนด์มือถือในตำนานที่สร้างความทรงจำให้ใครหลายคน ชื่อของ "Motorola" ต้องผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน! จากยุคทองของฝาพับสุดเท่อย่าง Razr V3 จนถึงช่วงเวลาที่แบรนด์เงียบหายไปจากสปอตไลท์… แต่ตอนนี้! Motorola กลับมาแล้ว และกลับมาอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม จนสามารถไต่ขึ้นมาเป็น Top 3 ในตลาดใหญ่อย่างอเมริกาเหนือได้สำเร็จ! ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า พวกเขาทำได้อย่างไร? และนี่คือกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Moto กลับมาผงาดได้อีกครั้งครับ
1. เลือกสนามรบที่ใช่ : โฟกัสที่ "ความคุ้มค่า"
แทนที่จะกระโดดไปสู้ในสงครามมือถือเรือธง (Flagship) ที่มีการแข่งขันสูงลิ่ว Motorola เลือกที่จะทุ่มเทให้กับตลาดระดับกลาง (Mid-range) และระดับเริ่มต้น (Budget) ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และผู้คนมองหา "ความคุ้มค่า" เป็นหลัก มือถือในซีรีส์ Moto G ได้กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น ให้สเปกที่ดีในราคาที่จับต้องได้ง่าย จนครองใจผู้ใช้ในวงกว้าง
2. อาวุธลับ : "Android บริสุทธิ์" (Stock Android)
นี่คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุด! ในขณะที่แบรนด์อื่นพยายามใส่ฟีเจอร์และแอปฯ ที่ไม่จำเป็น (Bloatware) มาให้เต็มเครื่อง แต่ Motorola เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Android ที่ใกล้เคียงกับเวอร์ชันของ Google มากที่สุด ผลลัพธ์คือ
✅ ความลื่นไหล : ทำงานเร็ว ไม่มีแอปขยะมาหน่วงเครื่อง
✅ อัปเดตไว : ได้รับการอัปเดตความปลอดภัย และ Android เวอร์ชันใหม่ ๆ รวดเร็วกว่า
✅ ใช้งานง่าย : หน้าตาเมนูสะอาดสะอ้าน ไม่ซับซ้อน
3. ปลุกตำนานให้มีชีวิต : พลังของ "Razr"
การนำชื่อ "Razr" ที่โด่งดังในอดีต กลับมาทำเป็นมือถือจอพับ (Foldable) ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดสุดๆ แม้จะไม่ได้เน้นขายในปริมาณมหาศาล แต่มันกลับสร้างกระแส (Buzz) และทำให้คนทั่วโลกหันกลับมามอง Motorola อีกครั้ง เป็นการประกาศว่า "ฉันยังอยู่นะ และยังสร้างนวัตกรรมได้"
4. ไม่ได้มีดีแค่รุ่นเล็ก : ขยายพอร์ตให้ครอบคลุม
เมื่อฐานแฟนคลับแข็งแกร่งแล้ว Motorola ก็เริ่มขยับขยายไปยังตลาดอื่น ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Edge ที่ออกมาท้าชนในตลาดเรือธงด้วยสเปกที่จัดเต็ม และ ThinkPhone ที่เจาะกลุ่มตลาดองค์กรและนักธุรกิจโดยเฉพาะ โดยนำความแข็งแกร่งของแบรนด์ ThinkPad จาก Lenovo (บริษัทแม่) มาต่อยอด
สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?
ปัจจุบัน Motorola ได้พิสูจน์แล้วว่า กลยุทธ์ของพวกเขามาถูกทาง โดยสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคงในหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือและละตินอเมริกาที่ยึดตำแหน่ง Top 3 ได้อย่างเหนียวแน่น และยังคงเดินหน้าเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง
การกลับมาครั้งนี้ของ Motorola เป็นบทเรียนการตลาดอันยอดเยี่ยมที่แสดงให้เห็นว่า การเข้าใจจุดแข็งของตัวเอง, การเลือกตลาดที่เหมาะสม และการใช้มรดกของแบรนด์ให้เป็นประโยชน์ สามารถนำพาแบรนด์ที่เคยเงียบเหงา ให้กลับมายืนในสปอตไลท์ได้อย่างสง่างามอีกครั้ง!
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ คิดยังไงกับการกลับมาของ Motorola กันบ้าง? ใครเคยใช้หรือยังใช้ Moto อยู่ มาแชร์ประสบการณ์กันได้ครับ
—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!