‘ทวี’ เปิดโครงการส่งเสริมทักษะด้านภาษาเพื่อการสื่อสารและจริยธรรมให้เยาวชนภูเก็ต
ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมทักษะด้านภาษาเพื่อการสื่อสาร และจริยธรรม ให้แก่เด็กและเยาวชน ประจำปี 68 ในการอบรมวิทยากรอิสลามศึกษาจ.ภูเก็ต เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ณ ห้องประชุมโรงแรมศุภาลัย ซีนิค เบย์ รีสอร์ทแอนด์สปา อ.ถลาง จัดโดย สมาคมฟัรดูอัยน์คุรุสัมพันธ์ภูเก็ต ร่วมกับหน่วยสอบที่ 21 และ 43 เขตการศึกษาที่ 7 สมาคมคุรุสัมพันธ์อิสลามแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และงบประมาณสนับสนุนการจัดงาน โดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายเรวัต อารีรอบ นายกอบจ.ภูเก็ต ให้การต้อนรับ
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ ภาษามาลายู และส่งเสริมการเรียนรู้หลักจริยธรรมอิสลาม เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ในนามของรัฐบาล ตนมีความซาบซึ้งใจที่ทุกท่านได้ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมดี ๆ ให้แก่เด็กและเยาวชนของเรา ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา พี่น้องมุสลิมถือเป็นส่วนสำคัญหนึ่งของสังคมไทย มีบทบาทสำคัญในการสร้างชาติในหลายๆด้าน ทั้งการเมือง การปกครอง การค้า และสังคม โดยมีส่วนร่วมในการก่อตั้งและพัฒนาประเทศตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ตนได้รับโอกาสใช้ชีวิตในห้วงที่รับราชการและการเป็นรมว.ยุติธรรม ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนและสังคมมุสลิม จึงทราบดีถึงความตั้งใจดีและปรารถนาดีของทุกท่านที่มีต่อสังคมมุสลิมและสังคมไทยในภาพรวม
การพัฒนาสังคมและส่งต่อสังคมที่ดีจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งนั้น ปัจจัยสำคัญก็คือ การศึกษา การที่สมาคมฟัรดูอัยน์คุรุสัมพันธ์จ.ภูเก็ต ได้จัดกิจกรรมโครงการในลักษณะนี้ จึงถือเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการสนับสนุนและขยายผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างให้เยาวชนมีความถนัดด้านภาษา ทั้งสามภาษาล้วนมีบทบาทสำคัญในบริบทสังคมโลกปัจจุบัน ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาทางการที่ใช้สื่อสารทั่วโลกและเพิ่มโอกาสในการทำงานในอนาคต ภาษาอาหรับเป็นภาษาที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากกว่า 22 ประเทศทั่วโลก และภาษามาลายูมีการใช้กันในหมู่ประชากรโลกมากกว่า 350 ล้านคน การที่เด็กๆ และเยาวชนของเรามีความถนัดในภาษาเหล่านี้ จะส่งผลดีกับตนเองและส่งผลถึงศักยภาพของประเทศในระยะยาว
“ภูเก็ตถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สะท้อนความเป็นพหุสังคมระดับโลก เรามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ท่าอากาศยานภูเก็ตในช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 กว่า 9.1 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 50,000 คน เฉลี่ยวันละมากกว่า 300 เที่ยวบิน สำหรับเดือนม.ค.-มิ.ย.68 มีเที่ยวบินมากถึง 55,108 เที่ยวบิน เกินกว่า 50% เป็นสายการบินระหว่างประเทศ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของภูเก็ตในฐานะเมืองแห่งการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงกับโลกในทุกมิติ ชุมชนมุสลิมในภูเก็ตจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งที่จะแสดงบทบาทในฐานะเจ้าของบ้านที่ดีควบคู่ไปกับการรักษาอัตลักษณ์และการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม เมื่อพูดถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจ”
ตนขอเรียนว่าเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลได้สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปจนถึงปี 70 แม้เงินทุนก้อนนี้จะไม่ได้ส่งมาที่ภูเก็ตโดยตรง แต่โดยหลักแล้วโครงสร้างการประกอบการ แรงงาน และการใช้จ่ายเงิน จะเวียนเข้ามาในภูเก็ตอย่างแน่นอน
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าอีกประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของมุสลิมภูเก็ตและมุสลิมไทยในภาพรวม เรื่องข้อเสนอทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับระบบการเงินปลอดดอกเบี้ยนั้น ในภาพรวมสังคมไทยเรามีพัฒนาการด้านการเงินอิสลามมากว่า 30 ปี ตั้งแต่การก่อตั้งสหกรณ์อิสลามแห่งแรกในปี 27 การเปิด อิสลามิกวินโดว์ (Islamic Window) ในธนาคารพาณิชย์ในปี 41 และการก่อตั้งธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยในปี 46 และข้อมูลปี 67 ชี้ว่า มูลค่าสินทรัพย์รวมของอุตสาหกรรมการเงินอิสลามในไทยมีมากกว่า 4,358 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 140,000 ล้านบาท) เติบโตเฉลี่ย 5.56% ต่อปี โดยมีธนาคารอิสลามและสหกรณ์อิสลามเป็นกลไกหลัก และยังขยายไปกว่า 54 แห่งทั่วประเทศ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและโอกาสในการเติบโตอย่างมั่นคงของการเงินอิสลามในประเทศไทย
ตนยืนยันว่าโอกาสทางเศรษฐกิจของชุมชนมุสลิมภูเก็ตและมุสลิมไทย ในภาพรวมจะได้รับการสนับสนุนอย่างดีภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล โดยจะคำนึงถึง สามเสาหลัก ได้แก่ 1.ปลอดดอกเบี้ย (Riba-Free) เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงทุนอย่างเท่าเทียม 2.เศรษฐกิจฮาลาล (Halal-Based Economy) ครอบคลุมกระบวนการผลิตและบริการที่สอดคล้องกับหลักศาสนา 3.ระบบซะกาต (Zakat-Based Redistribution) เพื่อกระจายความมั่งคั่ง ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความยั่งยืนในชุมชน
ตนหวังว่าการอบรมของสมาคมฟัรดูอัยน์คุรุสัมพันธ์ภูเก็ตในวันนี้ จะเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยบ่มเพาะความรู้ ความศรัทธา และความเข้มแข็งให้กับชุมชนมุสลิมในภูเก็ต พร้อมเชื่อมโยงไปสู่โอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมทั้งในประเทศไทย โลกมุสลิม และสังคมระหว่างประเทศต่อไป