เลิกได้เลิก! ชา 2 ชนิด "ทำลาย" ตับอย่างเงียบๆ เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหากดื่มบ่อยๆ

ชา 2 ชนิด หากดื่มติดต่อกันนาน ๆ อาจทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับ ใครยังดื่มอยู่ควรหยุดทันที

ชาเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมที่หลายคนเลือกดื่มเพื่อเติมสารอาหารดีๆ ให้ร่างกาย งานวิจัยหลายชิ้นทั่วโลกพบว่าการดื่มชาในปริมาณที่พอดี ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ต่อต้านความเสื่อมของร่างกาย และอาจช่วยป้องกันโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน

แต่ในขณะที่ชาหลายชนิดมีข้อดี บางประเภทกลับแฝงโทษเงียบที่ค่อย ๆ บั่นทอนสุขภาพตับ และเสี่ยงมะเร็งได้ หากดื่มมากเกินไปหรือติดต่อกันนาน ๆ

Anna Pou

ชา 2 ชนิดที่แอบทำร้ายตับแบบเงียบ ๆ

1. ชาขึ้นรา

เว็บไซต์ Aboluowang ของจีนเผยว่า หากชาเก็บรักษาไม่ดีจนชื้น นอกจากรสชาติและกลิ่นจะเปลี่ยนไปแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก

เมื่อชาเกิดความชื้น สารอาหารในชาเริ่มเสื่อมสภาพ และเป็นแหล่งเพาะเชื้อราต่าง ๆ หากดื่มชาขึ้นราติดต่อกันนานๆ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร เช่น อักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย

นอกจากนี้ ชาขึ้นรายังเสี่ยงมีสารพิษ อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษจากเชื้อราอันตราย และถูกองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1

การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีอะฟลาทอกซินบ่อยๆ เช่น ชาขึ้นรา อาจทำให้เซลล์ตับถูกทำลายอย่างรุนแรง เสี่ยงต่อภาวะตับวาย ตับแข็ง และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับในระยะยาว

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรเก็บชาไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงแสงแดดและบริเวณที่อับชื้น เช่น ห้องครัวหรือห้องน้ำ และหากสังเกตว่าชาเริ่มมีราขึ้นหรือมีกลิ่นอับชื้น ควรทิ้งทันที ไม่ควรนำมาชงดื่มต่อเด็ดขาด

荼兰 DSGC

2. ชาเติมน้ำตาลปริมาณสูง

ทุกวันนี้ชาดั้งเดิมถูกดัดแปลงเป็นหลากหลายเมนู ทั้งชาใส่ผลไม้ ชานม ชาขวดสำเร็จรูป ฯลฯ ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้มักมีน้ำตาลในปริมาณมาก เพื่อเพิ่มรสหวาน ทำให้ดื่มง่ายและถูกใจหลายคน ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Aboluowang

การดื่มชาที่ใส่น้ำตาลบ่อย ๆ ก็แฝงความเสี่ยงต่อสุขภาพ เพราะน้ำตาลในชาเหล่านี้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว หากดื่มมากเกินไป ตับจะต้องทำงานหนักขึ้นในการเผาผลาญน้ำตาลส่วนเกิน ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมไว้ในตับ จนนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ (NAFLD)

หากปล่อยไว้นาน ตับจะเกิดการอักเสบ ส่งผลให้ตับทำงานได้แย่ลง และหากรุนแรงขึ้นอาจลุกลามกลายเป็นตับแข็งได้ในที่สุด

ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจึงแนะนำว่า การหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงชาใส่น้ำตาลทั้งหลาย ถือเป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลดีในการปกป้องตับ และลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับตับในระยะยาว