"ฉันทวิชญ์" เผย ผลการเจรจาการค้าสหรัฐ ยังไม่มา เชื่อ! "พิชัย" มีดีลดี
วันนี้ (4 ก.ค. 68) นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าของการเจรจาการค้ากับสหรัฐของไทย ว่า หลังจากที่ทีมเจรจาโดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานทีมเจรจาเดินทางไปเจรจากับสหรัฐตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 และได้คิวเข้าเจรจาในวันที่ 3 ก.ค. 68 นั้น ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผลการเจรจากลับมา ซึ่งต้องรอผลจากนายพิชัย รายงานกลับมาในฐานะประธานทีมเจรจา แต่ก็คาดว่าทางทีมคงจะเปิดเผยผลเจรจาเร็วๆนี้
ส่วนกรอบกำแพงภาษีว่าไทยจะถูกสหรัฐเรียกเก็บเท่าไหร่นั้น นายฉันทวิชญ์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดา ความคิดของประธานาธิบดีสหรัฐได้เลยว่าคิดอะไรอยู่ แต่จุดมุ่งหมายของไทยที่รัฐบาลเคยพูดไปว่าจะพยายามทำให้อัตราภาษีไม่น้อยหน้าเพื่อนบ้านคู่แข่ง อย่างไรก็ตามก็เชื่อว่าทีมเจรจาจะไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ แต่หากว่าได้โดนเก็บอัตราภาษีที่สูงกว่าเวียดนาม ซึ่งโดนเก็บอยู่ที่ 20% จริง ก็คงจะเป็นเรื่องท้าทายของไทยอยางมาก ที่จะต้องหามาตรการมารองรับต่อไป
ขณะที่แนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปี นายฉันทวิชญ์ มองว่า ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก และต้องยอมรับว่ามีปัจจัยรุมเร้าค่อนข้างเยอะ เช่น ผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ เป็นตัวกำหนดที่สำคัญว่าเศรษฐกิจไทยจะโตได้แค่ไหน แต่จากที่ดูการประเมินจากหน่วยงานต่างๆ คิดว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ติดลบ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ตนเองไม่อยากให้กังวลมากเกินไป ถึงแม้เศรษฐกิจไทยจะมีความไม่แน่นอนที่สูงแต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต และยังสามารถเดินหน้าไปต่อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่าภาครัฐเข้ามามีบทบาทกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งเจรจาการค้ากับสหรัฐ เร่งเจรจาการค้าเสรีได้ รวมถึงเร่งเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง และระยะต่อไปก็จะมีทิศทางที่ดีขึ้นได้ แน่นอน แต่จะดีแค่ไหนต้องรอดูตัวเลขอีกครั้ง
ขณะที่แนวโน้มการส่งออกในครึ่งปีหลังไปยังตลาดสหรัฐมีทีท่าว่าจะลดการส่งอออกลง นายฉันทวิชญ์ ระบุว่า ปัจจัยที่จะมาเร่งการส่งอแกของไทยได้นั้น คือ การเจรจาการค้าเสรี เช่น กับ EU และ เกาหลีใต้ ที่เป็นตลาดศักยภาพแทน นอกจากนี้จากการที่ได้คุยกับภาคเอกชน ก็พบว่าภาคเอกชนไม่ได้นิ่งเฉย และพยายามหาวิธีปรับตัวไปตามสถานการณ์การค้าโลก พยายามหาตลาดใหม่ พยายามหาทางที่จะลดต้นทุน เพราะฉะนั้นเราต้องอย่าลืมว่าไม่ว่าอเมริกาจะทำอย่างไร ภาคเอกชนใครเก่งและจะสามารถปรับตัวได้ ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยไปต่อได้
สำหรับมุมมองต่อค่าเงินบาทที่ค่อนข้างแข็งค่าอยู่ในขณะนี้ นายฉันทวิชญ์ กล่าวว่า มุมมองของตนเองในฐานะของคนที่เคยทำงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. มองว่า ธปท. ได้ดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งผลต่อเศรษฐกิจ และความมั่นคงของเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย เพราะฉะนั้นเรามีความเชื่อมั่นว่านโยบาย ธปท. จะทำให้ค่าเงินบาทดีที่สุดกับเศรษฐกิจในระยะยาวอยู่แล้ว
ในส่วน กระทรวงพาณิชย์ ไม่ว่าค่าเงินบาทจะเป็นอย่างไร กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ส่งเสริม ให้ผู้ประกอบการ ให้ภาคเอกชนและคนทำงาน สามารถได้ประโยชน์จากสิ่งนั้น แต่จะให้ไปกำหนดธนาคารในประเทศไทยว่าค่าเงินบาทควรจะอยู่เท่าไหร่ ผมคิดว่าเราต้องเคารพถึงความเป็นอิสระในการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย และมั่นใจว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้พิจารณาจากหลายปัจจัยทั้งระยะสั้นและระยะยาว อย่างรอบครอบ
โดยในช่วงเข้าของวันนี้ที่ผ่านมา นายฉันทวิชญ์ ได้เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักสิทธิ์ประจำกระทรวง ในโอกาส เข้ารับตำแหน่งในวันแรก โดยมีคณะผู้บริหาร พนักงานและเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
พร้อมกล่าวภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสร็จสิ้นว่า ขณะนี้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แบ่งหน้าที่การทำงานเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งตนเองได้รับมอบหมายให้ดูแลในส่วนงานต่างประเทศเป็นหลัก แต่จะได้รับผิดชอบให้ดูแลกรมไหนบ้างนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งต้องรอให้รัฐมนตรีว่าการฯ เซ็นแต่งตั้งตำแหน่งหน้าที่ ที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการก่อน ภายในสัปดาห์หน้าก่อน
นายฉันทวิชญ์ ระบุว่า สำหรับปัญหาเร่งด่วนที่กระทรวงพาณิชย์ต้องแก้ไข นั้น แบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. การเจรจาการค้ากับสหรัฐ ทั้งการเจรจาเฉพาะหน้าอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ไทยได้ข้อตกลงที่ดีที่สุดกับธุรกิจไทยและประชาชนในประเทศ และนอกจากการเจรจาเฉพาะหน้าแล้วยังมีการเจรจาระยะกลางและระยาง ที่เป็นการเจรจาการค้าเสรีหรือว่าเอฟทีเอ กับ EU และเกาหลีใต้ อีกด้วยที่ต้องเร่งทำ
2.การวางรากฐานให้กับธุรกิจไทย เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันได้อย่างเท่าเทียมกับธุรกิจต่างชาติ รวมถึงการทำให้ธุรกิจไทยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ในการแข่งขัน เช่น การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการจดทะเบียนธุรกิจไทย
3. เรื่องราคาของสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญ
สำหรับสถานการณ์เสถียรภาพทางการเมืองตอนนี้ค่อนข้างที่จะสั่นคลอน นั้น กระทรวงพาณิชย์จะสร้างความเชื่อมั่นอย่างไรให้กับประชาชนบ้าง นายฉันทวิชญ์ ระบุว่า ขณะนี้ได้มีการหารือกันระหว่างรัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีช่วยสุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่า อยากให้กระทรวงพาณิชย์เป็นจุดยืน
ซึ่งประเทศไทยมีเรื่องที่ต้องแก้ไขจริง อย่างเช่น ขณะนี้ในไทยต้องแข่งขันกับในหลายๆประเทศ ที่เร่งดำเนินงานเรื่องการเจรจาการค้าอยู่ แต่เชื่อว่าประสิทธิภาพการทำงานของข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ และทีมทางการเมืองที่เป็นทีมเดียวกัน จะสามารถหาจุดสร้างเสถียรภาพในการเจรจากับต่างประเทศได้ ถึงแม้ว่าในประเทศของเราจะยังต้องพูดคุยกัน จะยังต้องรอคำสั่งคำตัดสินต่างๆ แต่เราก็เชื่อมั่นว่ากระทรวงพาณิชย์จะเป็นเสถียรภาพด้านต่างประเทศให้กับประเทศไทยได้ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าขณะที่ทุกคนจะต้องรอความมั่นคงทางการเมืองในประเทศ
“ด้านต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์จะไม่ถอยและไม่ตกแถว ซึ่งอันนี้เป็นความตั้งใจของรัฐมนตรีว่าการฯและของตนเองที่ต้องการจะให้กระทรวงพาณิชย์เป็นตัวขับเคลื่อนไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศจะเป็นอย่างไร เพราะเราเชื่อว่าการค้าการลงทุนของประเทศรอไม่ได้ โดยเฉพาะปีนี้”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีกรมในใจหรือไม่ นายฉันทวิชญ์ กล่าวว่า การที่ตนเองได้มีโอกาสเข้ามาทำงานใน กระทรวงพาณิชย์ ในด้านนโยบายต่างประเทศ ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่สำคัญมากๆแล้ว ตนไม่ได้มีกรมในใจ และเป็นกรมไหนก็ไม่สำคัญ แต่คิดว่าสิ่งที่สำคัญ อยู่ที่นโยบายและการขับเคลื่อน ว่านโยบายนั้นจะสำเร็จหรือเปล่า จะทำได้จริงหรือไม่ ประชาชนจะชอบหรือไม่ หรือว่ามีประโยชน์ต่อประเทศจริงหรือไม่ และตนเองดำเนินงานได้เร็วแค่ไหน เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า
ซึ่งในช่วงท้าย ก่อนนายฉันทวิทย์จะไปปฎิบัติหน้าที่ต่อ ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า ขณะที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกระทรวง นายฉันทวิชญ์ อธิษฐานอะไร นายฉันทวิทย์ระบุว่า เนื่องจากตนเองเป็นคนที่ชอบในเรื่องของนโยบาย ชอบอ่านชอบคิด ซึ่งที่ผ่านมาเวลาเดินหรือว่าขับรถไปไหน ตนเองมีความคิดว่าจะทำอย่างไร ให้ประเทศชาติดีขึ้นได้บ้าง จึงขอพรว่า ขอให้ความฝันเป็นจริง ขอให้สิ่งที่ตนเองฝันมาตั้งแต่เด็กเป็นจริง ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่จะมาช่วยขับเคลื่อนประเทศแล้ว จึงอยากเป็นคนการเมืองที่ดี ที่จะมาช่วย ให้คนในประเทศดีขึ้นและสมหวังแค่นี้ และเชื่อว่างานจะหนัก ตนเองจึงขอพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มีแรงขับเคลื่อนและทำงานตามหน้าที่ได้ทุกวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอกชน ชี้ ผู้นำเข้าในสหรัฐฯ ชะลอคำสั่งซื้อแล้ว เซ่นพิษภาษีทรัมป์ 36%
“ทรัมป์” เปิดแผน “ภาษีศุลกากรตอบโต้” ประเทศใดเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ โดนหมด
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "ฉันทวิชญ์" เผย ผลการเจรจาการค้าสหรัฐ ยังไม่มา เชื่อ! "พิชัย" มีดีลดี
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com