รู้จัก "LRAD" เครื่องส่งคลื่นความถี่สูง ทำกัมพูชาผวาชายแดนบ้านหนองจาน
จากกรณีชาวกัมพูชาก่อเหตุจลาจลบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีการประท้วงและรื้อลวดหนามออก กระทั่งฝ่ายทหารไทยได้นำ เครื่องส่งคลื่นความถี่สูง หรือ LRAD มาใช้ในการควบคุมสถานการณ์ โดยมีชาวกัมพูชา ทหาร และนักข่าวสายทหารกัมพูชา พยายามเอามือปิดจมูก สร้างภาพให้เข้าใจผิดว่าทหารไทยเตรียมใช้ควันพิษ นั้น วันนี้ PPTV จะพามาทำความรู้จักกับอุปกรณ์ดังกล่าวกันว่า มีลักษณะอย่างไร ทำงานอย่างไร หรือไทยเคยใช้เจ้าอุปกรณ์นี้ในกรณีไหนมาแล้วบ้าง
เครื่องสร้างเสียงระยะไกล (Long-range acoustic device: LRAD) หรือ ปืนเสียง (Sound cannon) เป็นลำโพงพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อสร้างเสียงความดังสูง ใช้สำหรับการสื่อสารในระยะไกล ถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในกลวิธีควบคุมฝูงชน รวมถึงการเจรจาในเหตุการณ์ปิดล้อม การรับมือกับโจรสลัดทางทะเล ไปจนถึงการใช้งานทางทหาร รวมถึงในกองทัพเรือหลายประเทศ โดยมีหลักการทั่วไปคือ ยิ่งเสียงต้นทางมีความดังมาก ก็จะส่งได้ไกลขึ้น
LRAD มี 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ แบบทิศทางเดียว (Directional models) ใช้สร้างเสียงสื่อสารและสัญญาณเตือนในระยะไกล มีลักษณะเป็นกรวยเสียงรัศมี 5–60 องศา ที่ความถี่ประมาณ 2 kHz และแบบรอบทิศทาง (Omnidirectional models) สร้างเสียงสื่อสารและสัญญาณเตือนได้รอบ 360° สามารถได้ยินไกลถึงราว 2.4 กิโลเมตร (1.5 ไมล์)
โดยเฟซบุ๊กเพจ thaiarmedforce.com ได้ให้รายละเอียดการทำงานของ LRAD ไว้ว่า ผู้ควบคุมเครื่องจะมีคันบังคับสำหรับเปลี่ยนทิศทางของคลื่นเสียงให้ไปยังเป้าหมายที่ต้องการ คลื่นเสียงที่ส่งออกมาอาจจะมีทั้งคำพูดของเจ้าหน้าที่ สัญญาณเตือน หรือไฟล์เสียงตามที่เจ้าหน้าที่จะเปิด
นอกจากนี้ ผู้ผลิตยังมีเสียงเฉพาะที่ออกแบบมาให้ผู้ฟังเกิดอาการปวดหูและกระทบกับการได้ยินที่เราเรียกว่า Deterrent Tone โดยเสียงจะดังวี๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ถี่ ๆ ต่อเนื่องกันซึ่งจะสร้างความเจ็บปวดให้ที่ระบบการได้ยินและหูอื้อ
แต่เนื่องจากเป็นคลื่นความถี่สูงที่ต้องบีบมุมของคลื่นเสียง ทำให้ถ้าขยับออกมาพ้นแนวกรวยเสียง ก็จะสามารถลดอาการปวดหูลงได้บ้าง แต่ถ้ารับคลื่นเสียงเต็ม ๆ จนหูอื้อนั้น ก็สามารถนั่งพักราว ๆ 5 - 10 นาทีก็หายปวดหูได้แล้ว แต่ถ้าได้รับอย่างต่อเนื่องและนานพอก็อาจทำลายเยื่อแก้วหูหรือเซลล์ขนข้างในหูได้
ส่วนวิธีป้องกันตนเองจากคลื่นเสียงนี้คือการใช้ที่ปิดหูหรือ Ear Plug หรือพวกที่ครอบหูหรือ Earmuff ต่าง ๆ ก็จะลดอาการปวดหูลงไปได้ อีกทั้งการเดินหลบมุมยิงคลื่นเสียงก็เป็นวิธีที่ได้ผลค่อนข้างมาก โดยมุมยิงคลื่นเสียงนั้นมีมุมราว 30 - 60 องศา ดังนั้นถ้าหลบออกมาเยื้อง ๆ รถหรือข้างรถ ก็จะลดอาการปวดหูลงไปได้มาก
ทั้งนี้ LRAD เริ่มถูกใช้อย่างแพร่หลายในปี 2002 ภายหลังเหตุการณ์โจมตีเรือพิฆาต USS Cole ของสหรัฐฯ ที่ถูกเรือเล็กของกลุ่มอัลกออิดะฮ์พุ่งชนแบบพลีชีพ บริเวณท่าเรือในเยเมน เมื่อปี 2000 ทำให้กองทัพเรือสหรัฐฯ เริ่มดำเนินการใช้เพื่อตรวจสอบเจตนาของเรือที่จะเข้ามาใกล้จากระยะไกล หากไม่ปฏิบัติตามคำเตือน จะได้สามารถดำเนินมาตรการป้องกันได้
ส่วนในประเทศไทย เครื่อง LRAD เคยถูกเตรียมนำมาใช้การชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 นำโดย กลุ่มราษฎร ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและปฏิรูปสถาบัน โดยพบว่ามีการนำมาติดตั้งบนรถฉีดน้ำแรงดันสูง (จีโน่) ที่จอดอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
และหากย้อนไปก่อนหน้านี้ LRAD พบว่าเคยถูกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2552 เพื่อสลายการชุมนุมของกลุ่มคนงานที่มาชุมนุมเรียกร้องต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ขอให้แก้ไขปัญหาการถูกเลิกจ้างงาน โดยคนงานที่มาชุมนุมพบว่าผลของเครื่อง LRAD ทำให้เจ็บปวดแก้วหู บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
และต่อมา LRAD ถูกนำออกมาในพื้นที่สาธารณะอีกครั้งในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บริเวณแยกราชประสงค์ บริเวณใกล้กับแยกราชดำริ เมื่อ ปี 2553
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รู้จัก "LRAD" เครื่องส่งคลื่นความถี่สูง ทำกัมพูชาผวาชายแดนบ้านหนองจาน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com