ผู้ประกอบการเกาะช้างไม่เชื่อมั่นแม้ไทย-กัมพูชาตกลงหยุดยิง เหตุ 2 รัฐบาลไร้เสถียรภาพ
ผู้ประกอบการเกาะช้างไม่เชื่อมั่นแม้ไทย-กัมพูชาตกลงหยุดยิง เหตุ 2 รัฐบาลไร้เสถียรภาพ ,ภาพรวมท่องเที่ยวเกาะช้าง ทำนักท่องเที่ยวหาย 90% วอนรัฐช่วยด่วน กังวลเหตุลากไปถึงไฮซีซั่น
อำเภอเกาะช้างจ.ตราด/(8 สิงหาคม 2568) แม้ว่าไทย-กัมพูชา เห็นพ้องร่วมกันหยุดยิงแล้ว แต่ผู้ประกอบการในอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ยังคงไม่เชื่อมั่นในสถานการณ์ ขณะที่ความสงบที่ผ่านมาส่งผลให้ขาดแคลนแรงงานชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวหาย 90 % หากสถานการณ์ยังไม่ปกติลากยาวถึงไฮซีซั่นจะส่งกระทบต่อเศรษฐกิจระยะยาว
นายสัคศิษฎ์ มุ่งการ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด ผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะช้าง ให้ความเห็นว่า แม้จะมีการประกาศหยุดยิง แต่ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองและความไม่มั่นคงของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย ทำให้ภาคเอกชนยังขาดความเชื่อมั่น มองว่ารัฐบาลยังไม่มีเสถียรภาพมากนัก จึงทำให้เราไม่ค่อยเชื่อมั่นในคำสั่งหยุดยิงครั้งนี้
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อปัญหาแรงงาน โดยแรงงานชาวกัมพูชาซึ่งเป็นส่วนสำคัญของภาคบริการและการก่อสร้างได้ทยอยเดินทางกลับประเทศตั้งแต่เดือนที่แล้ว จนถึงปัจจุบันแทบไม่เหลือแรงงานชาวกัมพูชาในพื้นที่เกาะช้างแล้ว คงเหลือไว้เพียงผู้ที่ตั้งรกรากและมีครอบครัวอยู่ที่นี่เท่านั้น
นายสัคศิษฎ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาในปัจจุบัน ผู้ประกอบการได้หันมาใช้แรงงานไทยในท้องถิ่นและนักศึกษาฝึกงานเพื่อทดแทนแรงงานที่ขาดหายไป ซึ่งสามารถช่วยพยุงสถานการณ์ในภาคบริการของโรงแรมและร้านอาหารได้ อย่างไรก็ตาม ภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด คือ ธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงแรงงานจากภาคอีสานบางส่วนเท่านั้น
ขณะที่นางพรทิพย์ สุนทรกิจ ผู้จัดการโรงแรมไชยเชษฐ์ รีสอร์ท เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวบนเกาะช้างในขณะนี้เงียบเหงาเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ที่ชายแดน ลูกค้าจำนวนมากได้ขอเลื่อนการเข้าพักและยกเลิกการจอง โดยเฉพาะกลุ่มสัมมนาซึ่งเป็นลูกค้าหลักในช่วงนี้ได้หายไปทั้งหมด ลูกค้ามองว่าเป็นจังหวัดตราด มีความน่ากลัว ไม่กล้ามา ทั้งที่เราพยายามบอกว่าเกาะช้างยังเดินทางมาได้ปกติและปลอดภัยดีอยู่ แต่ก็ทำให้ยอดจองห้องพักของรีสอร์ทลดลงไปเกือบ 90% ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการรายอื่นบนเกาะช้างก็ประสบปัญหาในลักษณะเดียวกัน
“นอกเหนือจากปัญหานักท่องเที่ยวแล้ว ผลกระทบต่อการจ้างงาน โดยแรงงานชาวกัมพูชาบางส่วน ได้ขอเดินทางกลับประเทศชั่วคราว เนื่องจากครอบครัวและญาติพี่น้องที่บ้านเกิดแสดงความเป็นห่วง ประกอบกับมีความกังวลเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนเอง แม้ทางผู้ประกอบการจะพยายามทำความเข้าใจและให้การดูแลอย่างดีแล้วก็ตาม”
นางพรทิพย์ ขอเรียกร้องให้ภาครัฐพิจารณามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ แม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ชายแดนโดยตรงก็ตาม เพราะมีภาระหนี้สินกับธนาคารที่ต้องชำระ อยากให้รัฐช่วยพิจารณามาตรการช่วยเหลือ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย, การยืดเวลาชำระหนี้ หรือมาตรการผ่อนปรนอื่นๆ เหมือนที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ เพราะถึงเราจะไม่ได้ติดชายแดน แต่ก็ได้รับผลกระทบทางอ้อม และยังมีความกังวลว่าสถานการณ์อาจยืดเยื้อไปจนถึงช่วงปลายปี ซึ่งเป็นไฮซีซั่น จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก