โลกร้อนเร่งหิมาลัยละลาย ทำ “อินเดีย” น้ำท่วมทะลักเมือง
ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติออกมาเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) ว่า เหตุน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงโคลนและเศษซากที่พัดถล่มเมืองธาราลี รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีแนวโน้มสูงว่าเกิดจากการแตกของทะเลสาบน้ำแข็งที่ถูกกั้นด้วย “โมเรน” (เศษหินและดิน) หลังธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เหตุการณ์ดังกล่าวคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 4 ราย และยังมีผู้สูญหายอย่างน้อย 50 คน น้ำและเศษซากได้ไหลบ่าลงสู่หุบเขาแคบ ก่อนทะลักเข้าท่วมตัวเมืองอย่างรุนแรง แม้เจ้าหน้าที่รัฐจะระบุในเบื้องต้นว่า น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนัก แต่คณะผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นเพียง “ตัวกระตุ้นสุดท้าย” เนื่องจากก่อนหน้านี้ฝนได้ตกต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ดินชุ่มน้ำและสูญเสียความมั่นคง
ด้าน “พี.เค. โจชิ” จากมหาวิทยาลัยชวาหระลาล เนห์รู กรุงนิวเดลี อธิบายว่า สัญญาณบ่งชี้หลายอย่างชี้ไปที่การพังทลายของเขื่อนธรรมชาติที่เกิดจากเศษหินดิน (โมเรน) ซึ่งกักเก็บน้ำในทะเลสาบน้ำแข็งไว้ ปริมาณน้ำที่ทะลักออกมาอย่างฉับพลันสอดคล้องกับเหตุการณ์ “น้ำท่วมจากทะเลสาบน้ำแข็งแตก” หรือ Glacial Lake Outburst Flood (GLOF) ที่มีพลังทำลายสูง
อย่างไรก็ตาม เมฆที่ปกคลุมหนาแน่นทำให้ภาพถ่ายดาวเทียมไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาของเศษซากได้อย่างชัดเจน ด้าน ซาฟี อัคซาน ริซวี ที่ปรึกษาสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินเดีย ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สาเหตุจะมาจากดินถล่มซึ่งเกี่ยวข้องกับเศษซากธารน้ำแข็งและลำน้ำ
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตประชากรเกือบ 2 พันล้านคน กำลังละลายเร็วกว่าที่เคยเป็นมาอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ชุมชนในภูมิภาคนี้เผชิญกับภัยพิบัติที่ยากต่อการคาดการณ์ และมีความเสี่ยงสูญเสียในวงกว้างมากขึ้นทุกปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พยากรณ์อากาศ 8 สิงหาคม 2568 ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง กทม.ตก 60%
- ฝนตกหนักระลอกใหม่ 10 - 21 ส.ค. 68 ถล่มไทยทุกภาค เตือนน้ำท่วมฉับพลัน
- น้ำเจ้าพระยาไม่วิกฤต แต่ลุ่มต่ำต้องระวังน้ำทะเลหนุนสูง 7–13 ส.ค.
- เตรียมพกร่ม! เตือนฝนตกหนักพื้นที่กทม. และปริมณฑล 7-12 ส.ค. 2568
- “พายุหมุนเขตร้อน” แนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าไทย เตรียมรับมือช่วงเดือนสิงหาคม - ธันวาคม