เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำคณะสงฆ์มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำคณะสงฆ์ มอบเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพ แก่ผู้ประสบอุทกภัย
วันที่ 30 ส.ค.68 เวลา 14.00 น. พระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ ดร. เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระมหาสมศักดิ์ สุภเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำคณะสงฆ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพ แก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดนนายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งคณะศรัทธาพุทธศาสนิกชนร่วมกันช่วยเหลือสมทบ ชุดอุปโภค บริโภค ให้แก่วัดและผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และร่วมเยี่ยมให้กำลังใจแก่ประชาชนผู้ที่ประสบอุทกภัยด้วย
พระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ ดร เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เจริญพรว่า เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระมหาธีราจารย์ คณะใหญ่หนเหนือ ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม เมตตามอบกัปปิยภัณฑ์ 50,000 บาท เพื่อเป็นทุนตั้งต้นตั้งโรงทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดแม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ กองทุนหมู่บ้านรักษาศีล 5 หนเหนือ ยังได้มอบปัจจัย และชุดอุปโภค บริโภค แก่วัดและผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มูคค่า 30,000 บาท ในโอกาสนี้ พระเดชพระคุณพระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู ได้มอบกัปปิยภัณฑ์ 50,000 บาท และ ชุดอุปโภค บริโภค ที่ คณะสงฆ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ คณะศรัทธาพุทธศาสนิกชนร่วมกันสมทบช่วยเหลือ ให้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนำ ชุดอุปโภค บริโภคไปสมทบช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และในพื้นที่อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้ถวายกัปปิยภัณฑ์ให้แก่ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดผาบ่องใต้ เพื่อนำกัปปิยภัณฑ์ไปเป็นทุนตั้งต้นตั้งโรงทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และช่วยในการฟื้นฟูวัดอีกด้วย
นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ว่า..ทางศูนย์ราชการของจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งหน่วยงานที่ต่างๆ ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง รวมถึงการจัดการเปิดเส้นทางหลัก ถนนหมายเลข 108 โดยคาดว่าจะสามารถเดินทางได้ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2568 ช่วงค่ำของวัน ส่วนเส้นทางสายรองกำลังเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคลียร์เส้นทางตามลำดับ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวต่อว่า ในระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน 2568 นี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก แต่ความรุนแรงอาจไม่เท่ากับ พายุโซนร้อน “คาจิกิ” อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นกระบอกเสียงในการแจ้งประชาสัมพันธ์ให้กับญาติ พี่น้อง ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้อพยพมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และให้มีการเฝ้าระวังความเสี่ยงในพื้นที่ โดยทางส่วนราชการมีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชน