กัมพูชาติดต่อขอโทษคณะ IOT ปมทหารกัมพูชาโวยวายช่องอานม้า อ้าง "เมาสุรา"
กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน รับฟังการบรรยายสรุปที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งวันนี้ (20 ส.ค. 68) กองทัพบก พาสื่อมวลชนจากต่างประเทศ เข้ารับฟังข้อมูลและตรวจพื้นที่ได้รับผลกระทบร่วมกับกองทัพไทย โดยมี แพทย์หญิงวรวรรณ กอปรกิจงาม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และตัวแทนฝ่ายปกครอง ร่วมนำเสนอข้อมูลให้คณะฯ รับฟังข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แพทย์หญิงวรวรรณระบุว่า เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เวลา 07.30 น. เกิดการปะทะกันด้วยอาวุธหนักบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จนทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันในวันที่ 28 กรกฎาคม
จากสถานการณณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่าหนึ่งแสนคน ในพื้นที่ 5 อำเภอ 25 ตำบล 296 หมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.บัวเชด อ.สังขะ อ.กาบเชิง อ.พนมดงรัก และ อ.ปราสาท ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดหวังว่าการเดินทางมาสำรวจพื้นที่ของคณะฯ ในวันนี้จะสามารถเก็บข้อมูลและหลักฐานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับรายงานความเสียหายในพื้นที่ สรุปข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้น ประชาชนเสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บ 10 คน บ้านเรือนเสียหาย 102 หลัง, วัด 3 แห่ง, โรงพยาบาล, โรงเรียน, อำเภอ 1 แห่ง, โรงสีและศูนย์ฝึกอาชีพ 43 แห่ง สัตว์ตายทั้งหมดกว่า 600 ตัว
ช่วงที่ผ่านมา พบว่า หลังมีข้อตกลง 13 ข้อ ทางฝั่งกัมพูชา ยังละเมิดข้อตกลงต่าง ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะการตอบโต้กันทางสื่อโซเชียล หรือการแถลงของกัมพูชาอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ที่ล้วนเป็นข้อบิดเบือน เชื่อถือไม่ได้ จึงอยากให้คณะฯ ได้เห็นและนำไปพิจารณาเพื่อนำไปสู่กระบวนการในการเจรจา
ด้าน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่าเป้าหมายพลเรือนที่เสียหายส่งผลต่อโรงพยาบาล โรงเรียน อาคาร ทรัพย์สิน และบ้านเรือนของประชาชน นำมาซึ่งความลำบากในการจัดตั้งศูนย์อพยพของจังหวัด ซึ่งทั้งหมดต่อผลกระทบของความเสียหาย
นอกจากเรื่องผิดข้อตกลง 13 ข้อแล้ว อยากให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน รับทราบว่า มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร มีการยั่วยุ ทั้งการใช้โดรน การเพิ่มเติมกำลัง หรือการขยับกองกำลัง โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า ยังเห็นว่ามีการยั่วยุอยู่ เช่น การทักท้วง ซึ่งอยู่ในข้อตกลง 13 ข้อ ที่อยากให้คณะฯ ช่วยตรวจสอบ
ขณะที่ พลตรีซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Brigadier General Samsul Rizal bin Musa) ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ได้สื่อสารกลับว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ได้เดินทางมา ซึ่งจะมีการรายงานที่เป็นรูปธรรม นำเรียนให้กับกองทัพไทย และกองทัพบก รับทราบ โดยจะระบุผ่านหลักฐาน 3 ข้อ คือการใช้ทุ่นระเบิด การใช้โดรน หรือ อากาศยานไร้คนขับ และการยั่วยุ ใช้ข้อมูลข่าวสารเท็จ ทั้งการแถลงการณ์ข่าวและโซเชียลมีเดีย
บางช่วงผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย ประจำประเทศไทย ระบุด้วยว่า “ไม่ได้ปากหวาน แต่ทหารฝั่งนั้น ไม่มีความเป็นมืออาชีพ แต่ทหารไทยก็มีคนใจดี เป็นสุภาพบุรุษ และมีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก เราทำอย่างไรก็เห็นอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น โดยไม่ต้องตะโกนบอกใคร หรือไล่ใครแบบนั้น”
และย้ำว่าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ไม่ได้มาเพื่อตัดสินใจว่าใครถูกหรือผิด แต่มาสังเกตการณ์ว่ามีการหยุดจริงอย่างแท้จริง และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่อยู่แนวชายแดน
โดยระหว่างการบรรยายสรุป ตัวแทนทหารไทยเผยว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ติดต่อมาขอโทษ ทางคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) และแจ้งว่าทหารกัมพูชาที่โวยวายที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี มีอาการเมาสุรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กัมพูชาติดต่อขอโทษคณะ IOT ปมทหารกัมพูชาโวยวายช่องอานม้า อ้าง "เมาสุรา"
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com