รู้จักทองเก่าโบราณของไทย พร้อมวิธีดูทองแท้ให้มั่นใจก่อนซื้อ
ทองคำไม่ใช่เพียงโลหะมีค่าที่ใช้แลกเปลี่ยนหรือสะสมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ความเชื่อ และรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่ฝังลึกในสังคมไทยมาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะ “ทองเก่าโบราณ” ที่ไม่ได้มีคุณค่าเพียงด้านมูลค่า แต่ยังสื่อถึงความศรัทธา ความประณีตในงานช่าง และกลิ่นอายของยุคสมัยที่หล่อหลอมขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งลวดลายที่ละเอียดอ่อน รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงวิธีการตีทองแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา
สำหรับผู้ที่สนใจสะสมทองโบราณ หรืออยากทำความเข้าใจความงดงามและคุณค่าที่แท้จริงของทองในอดีต การรู้จักประเภทของทองโบราณและวิธีสังเกตความแท้คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถประเมินคุณค่าได้อย่างถูกต้อง ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และมูลค่าทางวัตถุ
ความสำคัญของทองคำในสังคมไทยโบราณ
ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา จนมาถึงช่วงรัตนโกสินทร์ ทองคำถือเป็นวัสดุที่ถูกใช้ในหลากหลายด้าน ตั้งแต่เครื่องราช เครื่องบูชา ไปจนถึงเครื่องประดับของบุคคลสำคัญ ทองในสมัยก่อนจึงไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่ยังสื่อถึงฐานะ สถานะ และความเชื่อ เช่น การสวม “ทองลูกบวบ” ซึ่งเชื่อกันว่าจะให้ความเป็นมงคล ช่วยปกป้องผู้สวมใส่จากสิ่งไม่ดี หรือการนำทองคำมาปิดทององค์พระ และสร้างพระพุทธรูปทองคำ เพื่อแสดงออกถึงศรัทธาอันแรงกล้า ทั้งยังเชื่อว่าจะได้รับผลบุญอันยิ่งใหญ่
ทองเก่าโบราณประเภทต่าง ๆ ที่ควรรู้
คนไทยสมัยก่อนมีการนำทองคำมาใช้ในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และฐานะทางสังคม ทองเก่าโบราณแต่ละประเภทล้วนมีเอกลักษณ์และความหมายเฉพาะตัว ดังนี้
ทองนพคุณ
ทองนพคุณ คือทองคำบริสุทธิ์ระดับ 99.99% หรือเกือบ 100% ซึ่งเป็นทองที่หายากและมีมูลค่าสูงมากในอดีต เชื่อกันว่าได้จากแหล่งทองธรรมชาติโดยตรง ไม่มีการเจือปนโลหะอื่น จึงมีสีเหลืองทองอร่าม อ่อนตัวสูง และเหมาะแก่การนำไปหล่อหลอมเพื่อทำเครื่องทรงกษัตริย์ สิ่งของศักดิ์สิทธิ์ หรือเครื่องประดับชั้นสูงของราชสำนัก
ทองลูกบวบหรือ ทองดอกบวบ
ทองลูกบวบเป็นทองคำบริสุทธิ์ที่มีลักษณะสีเหลืองนวลอมเขียว คล้ายสีของดอกบวบ เกิดจากการผสมของเงินและทองแดงในปริมาณเล็กน้อยตามธรรมชาติ จึงมีความแข็งแรงมากกว่าทองนพคุณเล็กน้อย นิยมใช้ทำเครื่องประดับสำหรับชนชั้นกลางหรือชนชั้นสูงในบางยุค เนื่องจากให้ความงดงามและคุณค่าทางวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี
ทองแล่ง
ทองแล่ง คือทองคำที่ถูกตีแผ่เป็นแผ่นบางหรือเป็นเส้นเล็ก ๆ มักใช้สำหรับหุ้มหรือประดับตกแต่งวัตถุต่าง ๆ เช่น หุ้มพระพุทธรูป หุ้มส่วนประกอบของสถาปัตยกรรม หรือใช้ทำเครื่องประดับที่มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความงดงาม อีกทั้งทองแล่งยังแสดงถึงความประณีตในการทำงานฝีมือของคนไทยสมัยก่อนอีกด้วย
ทองแป
ทองแป คือเหรียญทองชนิดหนึ่งในสมัยโบราณที่ใช้เป็นเงินตราเพื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าและชำระหนี้ได้ แต่ในสมัยอยุธยา ทองแปไม่นิยมนำมาใช้ในด้านนี้มากนัก เพราะส่วนใหญ่จะถูกนำไปทำเป็นเครื่องประดับมากกว่า
ทองใบใหญ่
ทองใบใหญ่ คือทองคำที่ตีแผ่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ รูปสี่เหลี่ยม สามารถพับหรือม้วนเก็บเป็นหลอดกลมยาวได้ มีลักษณะเป็นแผ่นทองที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้ในงานศิลปหัตถกรรมและตกแต่ง เช่น การนำไปใช้ปิดทองพระ หรือใช้ในงานประณีตศิลป์
ทองเค (Karat Gold)
ทองเค คือทองคำที่ผสมกับโลหะอื่น เช่น ทองแดง เงิน สังกะสี เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน รวมถึงการเปลี่ยนสีของทอง โดยทองเคจะมีหลายระดับความบริสุทธิ์ เช่น 9K, 14K, 18K, 22K หากตัวเลขยิ่งสูง จะแสดงว่ามีปริมาณทองคำบริสุทธิ์ผสมอยู่มาก ในทองเก่าโบราณของไทย มักพบทองเคในเครื่องประดับที่ต้องการความแข็งแรงและคงรูปมากกว่าทองบริสุทธิ์
ทองรูปพรรณ
ทองรูปพรรณ คือทองคำที่นำมาแปรรูปเป็นเครื่องประดับหรือวัตถุต่าง ๆ เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ต่างหู กำไล จี้ และเครื่องใช้ ที่แสดงถึงศิลปะและฝีมือช่าง ทองรูปพรรณในสมัยโบราณมักจะมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณีของคนไทยสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี
วิธีดูทองโบราณเพื่อให้แน่ใจถึงความแท้และคุณค่า
ทองเก่าโบราณไม่เพียงแต่มีมูลค่าทางการเงิน แต่ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และจิตใจ การตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นทองแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของปลอม โดยมีคำแนะนำดังนี้
1. ตรวจสอบตรามาตรฐานหรือหมายเลขประทับ
ทองแท้ส่วนใหญ่จะมีรอยตราประทับทองที่ระบุความบริสุทธิ์ เช่น 96.5% หรือ 99.99% รวมถึงอาจมีสัญลักษณ์ที่บอกแหล่งผลิตหรือร้านทองที่ผลิตทองชิ้นนั้น ๆ
2. การทดสอบด้วยแม่เหล็ก
ทองคำแท้จะไม่ติดกับแม่เหล็ก เพราะไม่ใช่โลหะที่แม่เหล็กจะดูดติดขึ้นมาได้ หากลองใช้แม่เหล็กแรงสูงวางใกล้ ๆ แล้วทองติดขึ้นมา แสดงว่าทองชิ้นนั้นอาจมีโลหะอื่นเจือปน หรืออาจไม่ใช่ทองแท้ วิธีนี้ง่ายและสะดวก เหมาะสำหรับการตรวจสอบเบื้องต้น
3. น้ำหนักและสีของทอง
ทองคำแท้มีความหนาแน่นสูง จึงให้สัมผัสที่หนักแน่นกว่าทองปลอม สีของทองแท้จะออกเหลืองทองสดและดูเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ซีดจางหรือเปลี่ยนสีง่าย หากทองดูเบาเกินไปหรือมีสีผิดแปลกจากที่ควรจะเป็น ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นทองปลอม
4. ลักษณะของงานฝีมือ
ทองเก่าโบราณมักผ่านการทำมืออย่างประณีต รายละเอียดของลวดลายที่ชัดเจน และการเชื่อมต่อของชิ้นงานสามารถบอกได้ถึงคุณภาพและของทองในยุคสมัยโบราณ หากเห็นร่องรอยของการผลิตแบบดั้งเดิม หรือมีดีไซน์ที่บ่งบอกถึงยุคเก่า ก็อาจเป็นทองโบราณของแท้ก็เป็นได้
5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากยังไม่แน่ใจ การนำทองไปที่ร้านรับซื้อทองหรือให้ผู้เชี่ยวชาญด้านทองโบราณตรวจสอบ จะช่วยยืนยันความแท้และมูลค่าได้แม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้งบางแห่งอาจมีเครื่องตรวจสอบความบริสุทธิ์ที่ทันสมัย โดยสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบของทองได้เลย
เลือกซื้อทองแท้บริสุทธิ์ ต้องที่ “ฮั่วเซ่งเฮง”
หากคุณกำลังมองหาทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ หรือทองเก่าโบราณที่ได้รับการรับรองคุณภาพ มีค่าความบริสุทธิ์ตั้งแต่ 96.5% ไปจนถึง ทองแท้ 99.99% “ฮั่วเซ่งเฮง” คือชื่อที่คุณไว้วางใจได้ ด้วยประสบการณ์กว่า 75 ปีในการจัดจำหน่ายทองคำและบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนอย่างมืออาชีพ พร้อมบริการหลังการขายที่ใส่ใจทุกขั้นตอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-112-2222 ตลอดเวลาทำการตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.30-17.00 น.
แหล่งอ้างอิง
- 'ทองแท้' ไม่ต้องเผาไฟ เช็ควิธีสังเกต 'ทองคำ' แท้-ปลอม ไม่ให้โดนหลอก. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.bangkokbiznews.com/business/934584