ไทยเตรียมยื่นหลักฐานร้องเวทีอนุสัญญาออตตาวา 22 ส.ค.
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้ช่วยรัฐมนตรีการต่างประเทศ กองทัพบก และกระทรวงมหาดไทย พร้อมเชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา องค์กรภาคประชาสังคมเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมทั้งสื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดในดินแดนไทย และได้เห็นสภาพความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดจากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชา รวมถึงเพื่อให้ประชาคมระหว่างประเทศ ทบทวนการช่วยเหลือที่ให้กัมพูชาเก็บกู้ทุ่มระเบิด และร่วมกันกดดันให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีอนุสัญญาออตตาวา
นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการของไทยภายใต้อนุสัญญาออตตาวา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงโดยตรงต่อกัมพูชาทุกครั้ง รวมไปถึงส่งไปยังประธานอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย เกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ในเวทีพหุภาคีเอกอัครราชทูตถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ทั้งที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ทำงานอย่างแข็งขัน ในการขับเคลื่อนอนุสัญญาออตตาวายิ่งขึ้น ฝ่ายไทยได้จุดชนวนการดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ ว่าก่อนที่จะถึงการประชุมรัฐภาคีในเดือนธันวาคมปีนี้ เพื่อชี้ชัดเรื่องการละเมิดอนุสัญญาที่เกิดขึ้น กดดันให้ปฏิบัติตามพันธกรณีของตน และล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำนครเจนีวา ได้เข้าประชุมเรื่องรายละเอียดการที่กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาจะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ซึ่งเอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยฯ จะนำเสนอข้อเท็จจริงและหลักฐานเพิ่มเติมทั้งหมดในการประชุมดังกล่าวด้วย เพื่อสร้างแรงกดดันให้ประเทศภาคีที่ละเมิดอนุสัญญาเข้ามาชี้แจงและแก้ไข
นายนิกรเดช กล่าวว่า นอกจากนี้ การที่กัมพูชาโดย CMAA แถลงเมื่อเช้าวันนี้ (18 ส.ค.) โดยอ้างเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นท่าทีที่ย้อนแย้งของกัมพูชา ซึ่งกล่าวว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงยังถูกใช้อยู่และยังคงอยู่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตความปลอดภัยของมนุษย์ที่ประชาชนของทั้งสองประเทศประสบ ส่วนกรณีที่ผู้อำนวยการ CMAC นำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนนั้น ตนขอยืนยันว่าทุ่นระเบิดที่ฝ่ายไทยนำเสนอต่อคณะทูตฯ เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นั้น ทุ่นระเบิดที่ทหารไทยตรวจพบ และเก็บกู้มาจากบริเวณที่ทหารกัมพูชาเคยวางกำลัง โดยมีทั้งทุ่นระเบิดที่ยังไม่ได้นำไปติดตั้ง และทุ่นระเบิดที่ติดตั้งแล้ว รวมทั้งได้นำเสนอชิ้นส่วนของท่อระเบิดที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสและทำให้ทหารไทยพิการไปแล้ว ไทยขอยืนยันว่าไม่มีการจัดฉากใด ๆ.