ทบ. ยันไทยยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง ห่วงบ้านหนองจาน กัมพูชาหนุนให้รุกล้ำชัดเจน
กองทัพบก โต้คำแถลงกัมพูชา ยืนยันไทยยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิงเคร่งครัด เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ห่วงบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ชัดเจนกัมพูชาหนุนให้ประชาชนรุกล้ำพื้นที่ไทย
วันที่ 1 กันยายน 2568 กองทัพบกชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2568 นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา-ไทย โดยสรุปว่า กัมพูชายืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง พร้อมได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรนานาชาติ และกล่าวหาว่าฝ่ายไทยละเมิดข้อตกลงดังกล่าว จนสร้างความเสี่ยงต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน อีกทั้งยังก่อให้ประชากรกลุ่มเปราะบางต้องพลัดถิ่นมากยิ่งขึ้น พร้อมย้ำว่าการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงจะช่วยคุ้มครองประชาชน และเปิดโอกาสให้หน่วยงานด้านมนุษยธรรม อาทิ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) องค์การสหประชาชาติ และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) สามารถเข้ามาให้การช่วยเหลือที่จำเป็นต่อการดำรงชีพแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างเต็มที่
อีกทั้งยังอ้างว่า กัมพูชายึดมั่นในหลักการกฎบัตรสหประชาชาติ โดยเฉพาะการห้ามใช้กำลัง และพร้อมเดินหน้าการเจรจาเพื่อหาทางออกอย่างสันติ รวมถึงเรียกร้องให้ประเทศไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจัง ยุติการกระทำที่บ่อนทำลายข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียแก่พลเรือนในอนาคต รวมถึงทำงานร่วมกับกัมพูชาและกลไกของอาเซียนเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า ประเทศไทยยึดมั่นและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด พร้อมดำเนินการให้เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาไทยเปิดกว้างให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (IOT) คณะจาก ICRC และพันธมิตรนานาประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทุกจุดโดยเสรี ไม่เคยมีการปิดกั้นข้อมูล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความบริสุทธิ์ใจของฝ่ายไทย ที่ดำเนินการทุกอย่างแบบตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม กลับพบว่าฝ่ายกัมพูชาซึ่งอ้างว่ายึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง อาจเป็นเพียงภาพการสื่อสารเพื่อสร้างผลเชิงภาพลักษณ์เท่านั้น เพราะในความเป็นจริงฝ่ายกัมพูชายังมีการลักลอบวางทุ่นระเบิดในเขตแดนไทยอยู่ตลอด จนส่งผลให้กำลังพลไทยได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง อีกทั้งยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แม้ฝ่ายไทยจะได้เสนอผ่านเวทีการประชุม GBC และ RBC มาโดยตลอด นอกจากนี้ กัมพูชายังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนกล่าวหาไทย เช่น เรื่องการใช้อาวุธเคมี หรือบิดเบือนว่าทุ่นระเบิดที่พบเป็นของเก่าตกค้างจากสงครามในอดีต ทั้งที่ฝ่ายไทยมีหลักฐานพิสูจน์ยืนยันได้ชัดเจน สำหรับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงผ่านการใช้ทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา ถือเป็นการบ่อนทำลายความพยายามแก้ปัญหาในระดับทวิภาคีของกัมพูชาเอง
โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันฝ่ายไทยให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน โรงพยาบาล หรือระบบสาธารณูปโภค พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และนานาชาติ ที่ร่วมมือและแสดงน้ำใจช่วยเหลือกันอย่างเข้มแข็ง
“ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือเหตุการณ์ที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาสนับสนุนให้ประชาชนรุกล้ำเข้ามาอาศัยในเขตพื้นที่ประเทศไทย รวมถึงในเขตพื้นที่อ้างสิทธิของประเทศไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลง MOU 43 แม้ฝ่ายไทยประท้วงอย่างสันติมาอย่างยาวนาน แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหา”
ในช่วงท้าย โฆษกกองทัพบกย้ำด้วยว่า สังคมและนานาชาติควรตระหนักและรับรู้ว่า ที่ผ่านมากัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งยังพยายามใช้กลุ่มประชาชนออกหน้าแทนด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว จึงควรจับตาดูว่าจากนี้ไปกัมพูชาจะใช้วิธีการในลักษณะโล่มนุษย์ มาแก้ปัญหาเหมือนในช่วงที่ผ่านมาอีกหรือไม่.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทบ. ยันไทยยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง ห่วงบ้านหนองจาน กัมพูชาหนุนให้รุกล้ำชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับตา สินค้าอุปโภค-บริโภคลักลอบชายแดน สะท้อนวิกฤติความอดอยากกัมพูชาพุ่งถึงขีดสุด
- ใช้กฎอัยการศึก "บ้านหนองจาน" ป้องกันก่อเหตุจลาจล "พระราชทาน" ของเยี่ยมทหารเหยียบบึมขาขาด
- ฮุน มาเนต โพสต์ภาพหารือ สี จิ้นผิง เผยจีนสนับสนุนหยุดยิงไทย-กัมพูชา
- ตั้งแล้ว “บิ๊กเล็ก” คุม ศบ.ทก. "แม่ทัพภาคที่ 2" เกาะติด ไม่ฟันธงข้อมูล แม่ทัพกัมพูชาดับ
- “บิ๊กเล็ก” ยัน ตั้งศบ.ทก.ใหม่ ใช้ นโยบายเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ชายแดนกัมพูชา
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath