24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2568
>> บุกรวบนักพนัน 29 คน เล่นไพ่เก้าเกในหมู่บ้านหรูย่านท่าอิฐ
09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางศรีเมือง ได้ร่วมกันเข้าจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนัน 29 ราย ที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านท่าอิฐ ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พบของกลางคือ 1.ไพ่ 6 สำหรับ 2.เงินสด 4,900 บาท 3.โทรศัพท์มือถือของผู้เล่น 4.บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนหนึ่ง 5.กล้องวงจรปิด 6.เบาะรองนั่งและผ้าห่ม จากการตรวจสอบพบว่าผู้เล่นทั้ง 29 ราย ได้นัดกันมาเล่นไพ่เก้าเกภายในบ้าน โดยมี เจ้าของบ้าน 1 ราย เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาคือ ลักลอบเล่นการพนัน และอนุญาตให้ประกันตัวเจ้าของบ้านและผู้เล่นคนละ 10,000 บาท
พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการเล่นพนันเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังไปที่เกิดเหตุและเฝ้าติดตามก่อนเข้าจับกุม ได้นักพนันทั้งหมด 29 คน พบของกลางเป็นไพ่ 3-4 สำรับ และเงินสดจำนวน 4,900 บาท จากการสอบถามทราบว่านักพนันทั้งหมดนัดรวมตัวกันมาเล่นที่นี่ มาจากหลายที่ ซึ่งลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักอาศัยภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ไม่ใช่บ่อนพนัน ส่วนใหญ่นักพนันจะมาจากฝั่งธนบุรี และคนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี
>> กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า 480,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
12.00 น. กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จัดกำลังพล 1 ชุดปฏิบัติการ ทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจเพื่อป้องกัน และสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณถนนสาธารณะ บ้านรินหลวง หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย สีดำ หมายเลขทะเบียน เชียงใหม่ จึงเรียกตรวจ โดยคนขับรถได้ลงจากรถ และอาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไป จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว พบกระสอบถุงปุ๋ยหลากสี จำนวน 2 กระสอบ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) กระสอบละ 240,000 เม็ด รวมประมาณ 480,000 เม็ด
โดยสรุปผลการสกัดกั้นยาเสพติด ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน หน่วยสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 387 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 411 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 170,800,045 เม็ด, เฮโรอีน 145.8 กิโลกรัม, ไอซ์ 8,192 กิโลกรัม, ฝิ่น 96.9 กก. และ เคตามีน 696 กิโลกรัม จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 52 ครั้ง กลุ่มคนร้าย เสียชีวิต 34 ราย ซึ่งหากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว ถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 34,659 ล้านบาท
>> บช.น. แจงไม่พบในพื้นที่ หลังแชร์วอนโซเชียล คาดมีขบวนการแบล็กเมลเรียกเก็บเงิน
13.50 น. จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพบรรยากาศ ภายในบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง ที่มีการเปิดให้ประชาชนทั่วไป เข้าไปเสี่ยงโชคเล่นพนัน ทั้งนี้เป็นภาพมาจากกล้องวงจรปิด โดยระบุข้อความว่า บ่อนพนันของเฮียตี๋หทัยราษฎร์ มีนักพนันเป็นร้อยให้ลูกน้องที่ชื่ออ้วน เป็นคนกัมพูชาดูแล ส่งยอดเงินได้เสียให้ทราบตลอด ทำไพ่เก่ง ไฮโลเก่ง หาเงินให้เฮียตี๋เป็นร้อยล้าน การ์ดคุมบ่อนพกอาวุธปืนด้วยนั้น
ความคืบหน้า พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 ตรวจสอบบ่อนการพนันที่อ้างพื้นที่แถวย่านหทัยราษฎร์ จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีบ่อนการพนันลักษณะดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ บก.น.3 แต่อย่างใด หากมีเกิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครจุดใดจะดำเนินการตรวจสอบและจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลผ่านเพจดังกล่าวมีการระบุยืนยันว่า อยู่ในพื้นที่คลอง 15 ซึ่งเป็นคนละเขตพื้นที่รับผิดชอบของบช.น. นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า การนำคลิปภาพบ่อนการพนันดังกล่าว อาจจะมีการนำมาใช้เพื่อเรียกรับสินบนจากบ่อนการพนันที่ตั้งอยู่พื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากมีการอ้างถึงขบวนการนำคลิปภาพบ่อนต่างๆ มาเผยแพร่ผ่านโซเซียลมีเดีย แล้วไปเรียกรับเก็บเงินจากเจ้าหน้าที่พื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 และ ตำรวจภูธรภาค 2 ที่รับผิดชอบพื้นที่ อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบผู้นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ รวมถึงบ่อนการพนันดังกล่าวแล้ว หากพบการกระทำผิดจะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> บุกจับ “โซ่” มือปืนโหด ยิงถล่มเหยื่อ 6 นัด รอดตายหวุดหวิด
14.00 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายโซ่ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนางรอง ฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน” โดยจับกุมได้บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมยึดของกลาง
1.อาวุธปืนสั้น จำนวน 1 กระบอก
2.โครงปืนแบบแม็กกาซีน จำนวน 1 กระบอก
3. แม็กกาซีน จำนวน 1 อัน
4. กระสุนปืน จำนวน 11 นัด
จากกรณีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกประกาศเร่งล่าตัวผู้ต้องหา เพราะถือว่ามีพฤติการณ์เหี้ยมโหด และมีไหวพริบในการหลบหนี กองปราบปรามจึงนำกำลังลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ โดยในวันเกิดเหตุ ชายสองคนขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงเหยื่อถึง 6 นัด กระสุนเข้าร่าง 4 นัด แต่เคราะห์ดี รอดชีวิต เหตุการณ์นี้เชื่อมโยง ไปถึง นายโซ่ ซึ่งเคยก่อเหตุยิงในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2566
ทั้งนี้หลังเข้าตรวจบ้านไม่มีเลขที่ใน ต.โนนดินแดง พบตัวนายโซ่ นอนกบดานอยู่ภายในบ้าน ชุดจับกุมได้ชาร์จและเข้าควบคุมตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนนำตัวไปบันทึกจับกุมที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงโนนดินแดง และ ส่งต่อให้ สภ.ปะคำ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
>> "นายอำเภอถลาง" เผย "เครื่องบินเล็กพารามอเตอร์ตก" เบื้องต้นเกิดระหว่างการฝึกบิน สาเหตุระหว่างตรวจสอบ
15.20 น. เพจ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต รายงานล่าสุด นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกรณีที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุเครื่องบินตกในพื้นที่อำเภอถลาง ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 16.30 น. ณ บริเวณข้างถนนใกล้รันเวย์ หมู่ที่ 2 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยพบว่าเป็นอุบัติเหตุของเครื่องบินเล็กพารามอเตอร์ มิใช่เครื่องบินตามที่มีการนำเสนอในสื่อบางแห่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นได้รับแจ้งว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างการฝึกบิน โดยเครื่องพารามอเตอร์ได้ขึ้นบินตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. จากสนามบินเล็กป่าคลอก ในเบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ประกอบด้วยคนไทย 1 ราย และชาวต่างชาติ 1 ราย โดยหนึ่งรายมีอาการบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบนำส่งโรงพยาบาลถลางเพื่อเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนแล้ว
นายอำเภอถลางกล่าวว่า “เหตุการณ์ครั้งนี้ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุของเครื่องบินเล็กพารามอเตอร์ ไม่ใช่เครื่องบินตกแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการในพื้นที่ทันที เพื่อความถูกต้องและสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว” ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงอยู่ในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและสอบสวนพยาน รวมถึงอายัดเครื่องพารามอเตอร์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุ พร้อมรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องต่อไป
>> เพลิงไหม้ร้านทำสเกิร์ตรถยนต์-รับซื้อของเก่า เพลิงลุกไหม้วอด
16.00 น. พ.ต.ต.ธนสรณ์ แช่มช้อย สารวัตร(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ริมถนนเลียบคลองหก หมู่ 2 ต.คลองหก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงแจ้งรถดับเพลิงเทศบาลเมืองบึงยี่โถ เทศบาลตำบลธัญุบุรี และเทศบาลเมืองบึงคำพร้อย รวมทั้งรถดับเพลิงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี รวม 8 คันไปที่เกิดเหตุ พร้อมนายอธิปัตย์ เสี่ยมไหม ปลัดป้องกันอำเภอธัญบุรี และกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบเพลิงไหม้ร้านรับทำสเกิร์ตกันชนหน้ารถยนต์ และร้านรับซื้อของเก่า ตั้งอยู่ติดกันริมถนนเลียบคลองหก เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากภายในร้านมีของเก่าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีและด้านหลังเป็นชุมชนการเคหะคลองหก มีบ้านเรือนประชาชนหลายสิบหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรีบระดมฉีดน้ำดับเพลิงไหม้ไม่ให้เพลิงลุกลาม ใช้เวลาอยู่นาน 45 นาที จึงควบคุมเพลิงได้ แต่ทั้ง 2 ร้านถูกเพลิงเผาไหม้เสียหายทั้งหมด และรถเก๋งถูกเผาวอด 1 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ
>> สลด! พบร่างทารกแรกคลอด ถูกโยนลงเตาเผาถ่านเผาทิ้งกลิ่นไหม้คลุ้งกลางไร่อ้อย
16.47 น. ร.ต.อ.ณัฐวรรธน์ แก้วหาญ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น รับแจ้งจากชาวบ้านพบศพทารกถูกเผาอยู่ในเตาเผาถ่าน พื้นที่บ้านหินฮาว หมู่ 4 ต.โนนฆ้อง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพร้อมผู้เกี่ยวข้อง ที่เกิดเหตุ บริเวณเตาเผาถ่านกลางไร่อ้อย พบศพทารกแรกเกิด ไม่ทราบเพศ สภาพยังมีสายรกติดอยู่ถูกเผาอยู่ภายในหลุมเตาถ่าน ท่ามกลางความสลดใจของชาวบ้าน
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นทารกแรกเกิด แต่ไม่สามารถยืนยันเพศได้ เนื่องจากท่อนล่างถูกเผา โดยชาวบ้านออกมาที่ไร่อ้อยแล้วได้กลิ่นเหม็นไหม้ผิดปกติจึงเดินตามกลิ่นมาดูก็พบร่างทารกถูกเผา ซึ่งจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลหญิงตั้งครรภ์หรือเพิ่งคลอดลูกในพื้นที่ พร้อมส่งทารกไปชันสูตรว่าเสียชีวิตก่อนถูกเผา หรือยังมีชีวิตอยู่ขณะถูกเผา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> มือไวใจกล้า เจอตำรวจไวกว่า! สืบหัวหมาก รวบสาวกัมพูชา ลักมือถือกลางคอนเสิร์ตดัง
17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมากสามารถจับกุมผู้ต้องหาต่างด้าวลักทรัพย์รายสำคัญได้ พร้อมของกลางหลายรายการ
ผู้ต้องหา เป็นหญิง อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา ถูกจับกุมบริเวณข้างอินดอร์สเตเดียม การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่จัดคอนเสิร์ต จากการตรวจสอบพบผู้ต้องหามีพฤติกรรมแกะซิมการ์ดโทรศัพท์มือถืออย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบของกลางเป็น โทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 โปรแม็กซ์ และซัมซุง S23 อัลตร้า รวมถึงกระเป๋าสะพายข้าง กระดาษฟอยล์ และเข็มแทงซิม โดยผู้ต้องหายอมรับว่ามีเพื่อนร่วมขบวนการชาวกัมพูชาอีกคนลักทรัพย์มาให้ตนทำการแกะซิมและห่อฟอยล์เพื่อป้องกันการตรวจจับสัญญาณ
ต่อมามีผู้เสียหาย 2 ราย คือ หญิงสาว สัญชาติเมียนมาร์ และ หญิงสาวสัญชาติไทย เข้าพบตำรวจยืนยันว่าโทรศัพท์ของกลางทั้งสองเครื่องเป็นของตนที่สูญหายไป โดยสามารถชี้ยืนยันทรัพย์สินได้อย่างถูกต้อง
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นชาวกัมพูชา แต่ไม่สามารถแสดงเอกสารอนุญาตเข้าประเทศได้ และไม่สามารถแจ้งได้ว่าลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรได้อย่างไร เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าบุณฑริก-ยอดมน เฝ้าระวังช้างออกนอกพื้นที่ป่าเพื่อความปลอดภัยของ ปชช.และช้าง
20.20 น. นายอัศนัย นิลพุดซา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-ยอดมน ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าเข้าตรวจสอบและเฝ้าระวังช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน 2 จุด ได้แก่ บ้านป่าเลา (ภูงอย) หมู่ 6 ตำบลโนนก่อ อำเภอสิริธร ซึ่งพบช้างป่า 1 ตัว เข้าไปหากินในสวนยางพาราและไร่มันสำปะหลัง ทีมเจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจและเฝ้าระวังตั้งแต่เวลา 20.00 - 23.00 น. ก่อนจะพบช้างป่าตามที่ได้รับแจ้ง อีกจุดคือที่ บ้านเจริญชัย หมู่ 14 ตำบลคอแลน อำเภอบุณฑริก พบช้างป่าฝูงใหญ่ถึง 20 ตัว ออกมาหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เวลา 23.30 - 06.00 น. เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
จากการสำรวจพื้นที่โดยรอบ เจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณดังกล่าวมีลำห้วย, ต้นไผ่ และไร่มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของช้างป่า ทำให้ช้างมักจะออกมาจากพื้นที่อนุรักษ์เพื่อหาอาหารในบริเวณนี้ ทั้งนี้ ชุดเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการผลักดันช้างป่าทั้งหมดให้กลับเข้าสู่พื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างปลอดภัย และได้แจ้งเตือนชุมชนที่อยู่รอบพื้นที่ป่าหากพบเห็นช้างป่าให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที