โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ทางสองแพร่งชี้ชะตา “แพทองธาร” ลาออกก่อน-รอศาลตัดสิน.

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของไทย กับ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ 36 สมาชิกวุฒสภา (สว.) ยื่นร้องต่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ให้วินิจฉัยกรณีไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

เดินทางมาถึงบทจบ เมื่อ“ศาลรัฐธรรมนูญ” กำหนดนัดอ่านคำวินิจฉัย ในวันที่ 29 ส.ค. 2568 ในเวลา 15.00 น.

คดีนี้ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82, มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

2 ทางเลือก“แพทองธาร”

ก่อนที่จะไปถึงวันตัดสินชี้ชะตา “แพทองธาร” มีทางเลือกอยู่ 2 แนวทาง คือ “ลาออกก่อน” หรือ “รอคำวินิจฉัยศาล”

1. แพทองธาร"ลาออกก่อน"ศาลชี้ขาด : หาก “แพทองธาร” ตัดสินใจลาออกก่อนวันที่ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัย จะเกิดผลดังนี้

สถานการณ์ในรัฐสภา : รัฐบาลต้องเข้าสู่กระบวนการเลือก “นายกรัฐมนตรีคนใหม่” จากรายชื่อแคนดิเดตเดิมที่เสนอไว้ต่อรัฐสภา ข้อได้เปรียบคือ พรรคเพื่อไทยยังถือเสียงข้างมากร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล สามารถผลักดันแคนดิเดตใหม่โดยไม่สูญเสียอำนาจบริหาร

สำหรับรายชื่อผู้ที่มีสิทธิถูกเสนอชื่อโหวตในที่ประชุมสภาฯ ประกอบด้วยชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (ไพ่ใบสุดท้าย) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งองคมนตรี) และ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แคนดิเดตนายกฯ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, อนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกฯ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แคนดิเดตนายกฯ อดีตหัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์

ลดแรงกดดันทางคดี : การลาออกทำให้คดีในศาลสิ้นสุดลง, ศาลจำหน่ายคดี โดยไม่ต้องวินิจฉัย เนื่องจากไม่มีตำแหน่งนายกฯ ให้เพิกถอน, ไม่มีความผิดติดตัวช่วยลดความเสี่ยงของคำพิพากษา ที่จะเป็นบรรทัดฐานทางการเมือง

เกมในพรรคเพื่อไทย : การหาตัวแทนนายกฯ อาจเป็นการเปิดเวทีให้กลุ่มอำนาจภายในพรรค และ ครอบครัวชินวัตร ต่อรองตำแหน่งสำคัญ โดยมีความเสี่ยงต่อการแตกคอกับพรรคร่วม ที่มีข้อเรียกร้องทางการเมือง

2.ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ "พ้นตำแหน่ง" : หากศาลชี้ว่า “แพทองธาร” กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ และ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นย่อมรุนแรง ดังนี้

ผลทางกฎหมาย : การพ้นตำแหน่งตามคำวินิจฉัยศาล เป็นการสิ้นสุดสถานะนายกฯ โดยอัตโนมัติ และจะเป็น “สารตั้งต้น” ให้เอาผิด “ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต” ซึ่งมีคดี “จริยธรรมร้ายแรง” ให้ลง “ดาบสอง” รออยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว

แรงกดดันทางการเมือง : แม้ “พรรคเพื่อไทย” สามารถเสนอแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่ได้ แต่ภาพลักษณ์รัฐบาลจะเสียหายหนัก เพราะถูกตีความว่าผู้นำบริหารประเทศละเมิดรัฐธรรมนูญ

ฝ่ายค้านอาจใช้โอกาสนี้เดินเกมให้ยุบสภา หรือ สร้างแรงกดดันให้เปลี่ยนขั้วรัฐบาล โดยอ้างว่า คำวินิจฉัยสะท้อนความไม่เหมาะสมของฝ่ายบริหารที่มาจากพรรคเพื่อไทย

เลือกเส้นทางไหน-เสี่ยงต่างกัน

ลาออกก่อน = ควบคุมความเสียหายทางการเมือง ลดความเสี่ยงคำตัดสิน แต่ต้องเจอกับคำครหาว่า “หนีศาล”

รอศาลตัดสิน = มีโอกาสชนะคดี และกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม แต่หากแพ้จะเสียทั้งตำแหน่ง และภาพลักษณ์ในบันทึกประวัติศาสตร์
สถานการณ์นี้จึงเป็นเหมือน “เกมเดิมพันสูง” ของ แพทองธาร และ พรรคเพื่อไทย ที่ต้องประเมินทั้งปัจจัยทางกฎหมาย แรงกดดันทางการเมือง และ ความเชื่อมั่นของประชาชน

เพราะไม่ว่าผลจะออกมาแบบใด จะเป็นจุดเปลี่ยนของสมการอำนาจการเมืองไทย ในปี 2568 อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

+++++++++

ข้อต่อสู้“แพทองธาร”คดีคลิปฮุนเซน

เปิดคำชี้แจง “แพทองธาร” ต่อศาลรัฐธรรมนูญ แจงทุกถ้อยคำคลิป ฮุนเซน ยกเป็น “เทคนิคเจรจา-รักษาเอกราช-ความมั่นคงชาติ” ไม่ละเมิดจริยธรรม ไม่เอื้อประโยชน์ส่วนตน

วันที่ 29 ส.ค. 2568 ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย คดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และนัดไต่สวนพยาน 2 ปากคือ น.ส.แพทองธาร และ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันที่ 21 ส.ค. 2568 พร้อมทั้งให้ส่งคำแถลงการณ์ปิดคดี ภายในวันที่ 27 ส.ค. 2568

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2568 น.ส.แพทองธาร ได้ยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยขอให้ศาลอนุญาตไต่สวนพยานผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ปาก ได้แก่

1.นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

2.นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย

3.พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านกัมพูชา

4.พล.ท.พุฒิพงษ์ ชีพสมุทร ผู้ชำนาญกฎหมายความมั่นคง

5.นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ อดีตเอกอัครราชทูต

น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า การพูดคุยกับ ฮุน เซน ไม่ใช่การละเมิดจริยธรรมการเมือง และไม่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติภูมินายกฯ แต่เป็นการใช้ “เทคนิคเจรจาเชิงผลประโยชน์” เพื่อค้นหาความต้องการแท้จริงของคู่เจรจา โดยไม่ได้รับปากทำตามทุกข้อเสนอ เช่น ข้อเสนอให้ไทยเปิดด่านก่อน 5 ชั่วโมง นายกฯก็ตอบกลับให้เปิดพร้อมกัน และไม่ยอมตกลงใด ๆ จนกว่าจะหารือฝ่ายความมั่นคง

กรณีถ้อยคำที่กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเป็น “ฝั่งตรงข้าม” น.ส.แพทองธาร ชี้ว่า เป็นการแยกปัญหาออกจากตัวบุคคล เพื่ออธิบายให้กัมพูชาเข้าใจ ไม่ใช่ตำหนิ หรือ ลดทอนบทบาทฝ่ายทหาร พร้อมย้ำได้ขอโทษ และแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ติดใจ

นายกฯ ระบุด้วยว่า การสนทนาทั้งหมดดำเนินไปในกรอบการทูตอย่างสันติ เป็นไปตามข้อหารือกับรองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ ไม่มีเจตนาบ่อนทำลายรัฐ หรือ แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว อีกทั้งฮุน เซน ไม่มีสถานะผูกพันทางนิติสัมพันธ์ระหว่างรัฐ

น.ส.แพทองธาร จึงขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อให้ได้ทำงานต่อในฐานะนายกฯ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย เพราะหากยังทำหน้าที่ต่อ จะเป็นผลดีต่อความมั่นคง การบูรณาการงานฝ่ายทหาร และส่งสัญญาณความแข็งแกร่งต่อกัมพูชา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

GFC เปิดงบไตรมาส 2/68 รายได้แตะ 90 ล้าน ใส่เกียร์รุกขยายฐานต่างแดน

24 นาทีที่แล้ว

ถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล พบ บอร์นมัธ ดูบอลสดพรีเมียร์ลีกคืนนี้ 02.00 น.

37 นาทีที่แล้ว

ทหารกราดยิงชาวบ้านสุรินทร์ล่าสุด ทบ.พบผู้ก่อเหตุฆ่าตัวตาย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สธ. อัปเดตผลกระทบเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา 15 สิงหาคม 2568

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

‘สุขุม’ ฟันธง ‘เขากระโดง’ เกมการเมืองรับเลือกตั้ง วัดใจ ‘อธิบดีที่ดิน’ แนะดู ‘ยงยุทธ’ เป็นบทเรียน

ไทยโพสต์

รักชนกซัด รมต.เมินแจงงบฯ 69 - หมอชลน่านเตือนอย่าฝืนข้อบังคับสภาฯ

Thai PBS

‘อิ๊งค์’ออกจากสภาแล้ว ‘พ.ต.อ.ทวี’พาสส.พรรคประชาชาติให้กำลังใจ

เดลินิวส์

อิ๊งค์ ปลื้ม ‘ทวี’พาสส.ประชาชาติ ให้กำลังใจ ลั่นห่วงใยประชาชน พร้อมพัฒนาภาคใต้

Khaosod

‘เครือข่ายกัญชา’ ยื่นครม.ค้านกฎกระทรวงบังคับร้านขายกัญชาต้องเป็นสถานพยาบาล

ไทยโพสต์

‘ครูจวง’ฟ้องประชาชน ‘สพฐ.’หั่นงบปรับปรุงอาคารเรียนเด็กพิเศษ

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม