"มาริษ" แจงทูตภาคีออตตาวา 41 ชาติ ชี้กัมพูชาละเมิดหยุดยิง ลอบวางทุ่นสังหารซ้ำ ร้องนานาชาติเร่งกดดันหยุดพฤติกรรมไร้มนุษยธรรม
เวลา 09.30 น. กระทรวงการต่างประเทศ จัดบรรยายสรุปแก่ผู้แทนทางการทูตจาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ รวม 67 คน ซึ่งเป็นภาคีอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตกัมพูชาเข้าร่วมด้วย
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวผ่านวิดีโอจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุว่า เหตุทหารไทยบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างร้ายแรง ซ้ำยังฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงและพันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอย่างจงใจ
"ประเทศไทยขอประณามการกระทำเหล่านี้อย่างรุนแรงที่สุด เพราะบ่อนทำลายความสมบูรณ์ของอนุสัญญาออตตาวา และเจตนารมณ์ของปฏิญญาเสียมราฐ–อังกอร์" นายมาริษ กล่าว พร้อมเรียกร้องประชาคมโลกดำเนินทุกมาตรการกดดันให้กัมพูชาหยุดใช้ทุ่นระเบิดอย่างไร้มนุษยธรรม และปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
ไทยได้รายงานเรื่องนี้ต่อเลขาธิการสหประชาชาติ และขอคำชี้แจงจากกัมพูชาตามมาตรา 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาออตตาวา รวมถึงเชิญคณะทูตลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 16 ส.ค. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วย รมว.การต่างประเทศ ย้ำว่า ปัญหาทุ่นระเบิดชายแดนไทย–กัมพูชาไม่ใช่เพียงเรื่องความมั่นคง แต่เป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ต้องเร่งแก้ไข โดยที่ผ่านมาไทยเสนอให้กัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมหลายครั้ง แต่ถูกปฏิเสธ ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ทั้งสองฝ่ายตกลงปฏิบัติตามหยุดยิงอย่างเคร่งครัด งดเสริมกำลัง งดยั่วยุ และหลีกเลี่ยงการใช้กำลังทุกประเภทต่อพลเรือน
นอกห้องประชุม มีการจัดแสดงทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ตรวจพบบริเวณช่องบก ช่องอานม้า และช่องโดนเอาว์–กฤษณา เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการบรรยายสรุป