อโมริม รั้งที่5,อาร์เตต้า รองบ๊วย! เอไอจัดอันดับกุนซือพรีเมียร์ลีกโดนปลดซีซั่นหน้า
และเพื่อเป็นการหาคำตอบว่ากุนซือคนไหนที่มีโอกาสตกเก้าอี้มากที่สุดในซีซั่นหน้า เอไอจึงถูกนำมาใช้ตามระเบียบสำหรับโลกในยุคนี้ พร้อมมีคำอธิบายประกอบเสร็จสรรพ
20. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (แมนฯ ซิตี้)
"กวาร์ดิโอล่า ปลอดภัยดีแม้ แมนซิตี้ ต้องดิ้นรนในการคว้าอันดับท็อปโฟร์ซีซั่นก่อน แต่สถิติของเขาทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะโดนปลด"
19. มิเกล อาร์เตต้า (อาร์เซน่อล)
"อาร์เตต้า มีผลงานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการได้อันดับสองซีซั่นก่อนเป็นหลักประกันในความปลอดภัยของเขา"
18. อาร์เน่อ สล็อต (ลิเวอร์พูล)
"สล็อต ได้แชมป์ซีซั่นก่อน และมันทำให้เขาอยู่ในสถานภาพที่ไม่อาจแตะต้องได้"
17. อูไน เอเมรี่ (แอสตัน วิลล่า)
"เอเมรี่ สร้างผลงานได้ดีในถ้วยยุโรป และ วิลล่า มีสถานภาพที่มั่นคงในลีก"
16. เอ็ดดี้ ฮาว (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)
"ฮาว ได้แชมป์ คาราบาว คัพ และ นิวคาสเซิ่ล มีผลงานที่ยอดเยี่ยมในลีก แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนไล่ออกนอกจากเจ้าตัวจะสละเก้าอี้เอง"
15. เดวิด มอยส์ (เอฟเวอร์ตัน)
"มอยส์ มีประสบการณ์ และเขามีสัญญาสองปีซึ่งจะทำให้เขาเซฟนอกจากว่า เอฟเวอร์ตัน จะมีฟอร์มที่เลวร้ายเกินทน"
14. โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ (คริสตัล พาเลซ)
"กลาสเนอร์ พาทีมจบอันดับกลางของตาราง และได้แชมป์ เอฟเอ คัพ รวมถึง คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ซึ่งมากพอที่จะการันตีความแข็งแรงขาของเก้าอี้หากว่าซีซั่นหน้าเขาจะไม่เริ่มต้นอย่างย่ำแย่
13. วิตอร์ เปเรยร่า (วูล์ฟส์)
"ปาเรียร่า พาทีม หมาป่า รอดพ้นจากการตกชั้นซีซั่นก่อนได้ เขาน่าจะได้รับความไว้วางใจจากบอร์ดหากไม่เผอิญคุมทีมออกสตาร์ตซีซั่นได้อย่างเลวร้าย
12. ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ (ไบรท์ตัน)
"เฮอร์เซเลอร์ อยู่ในโปรเจ็กต์ระยะยาวของ นกนางนวล อย่างแน่นอน และหากเขาสร้างผลงานได้ดีในช่วงต้นซีซั่นก็จะยิ่งทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนปลดเว้นก็แต่ว่าจะมีทีมอื่นให้ความสนใจดึงไปคุมทีม (อย่างเช่นทีมชาติ เยอรมนี)"
11. มาร์โก ซิลวา (ฟูแล่ม)
"ซิลวา มีผลงานที่คงเส้นคงวากับ เจ้าสัวน้อย ซึ่งลดความเสี่ยงในการตกงานของเขาแม้จะมีแนวโน้มว่าสโมสรใหญ่อาจต้องการคว้าเขาไปรับงาน"
10. อันโดนี่ อิราโอล่า (บอร์นมัธ)
"การคุมทีมคว้าอันดับกลางตารางของซีซั่นก่อนทำให้ อิราโอล่า ปลอดภัยดีหากเขาไม่คุมทีมเริ่มต้นได้แย่ หรือถูกทีมที่ใหญ่กว่าทาบทาม"
9. เอ็นโซ่ มาเรสก้า (เชลซี)
"การพาทีมคว้าโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ มาเรสก้า สามารถวางใจได้ แถมเขาได้สองแชมป์กับทีมด้วยแม้ สิงห์บลูส์ จะมีสถิติเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมถี่ยิบก็ตาม"
8. นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ (ฟอเรสต์)
"นูโน่ เป็นอีกรายที่่ปลอดภัยดีหลังจาก เจ้าป่า ได้สิทธิ์ฟาดแข้งถ้วยยุโรปซีซั่นหน้า แต่ความคาดหวังที่สูงของสโมสรอาจทำให้เขากดดันอย่างหนัก"
7. แกรม พ็อตเตอร์ (เวสต์แฮม)
"พ็อตเตอร์ ได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือนม.ค.2025 และหนีไม่พ้นความกดดันแน่เนื่องจาก ขุนค้อน ได้อันดับ 14 ซีซั่นก่อนจึงทำให้เขาเสี่ยงตกเก้าอี้สูง และหากเขาพาทีมพัฒนาไม่ได้แฟนบอลก็จะเรียกร้องให้สโมสรปลดเขา"
6. โธมัส แฟร้งค์ (สเปอร์ส)
"ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากุนซือชาวเดนมาร์คกดดันอย่างหนักหลังเข้ามาแทนที่ แอนจ์ ปอสเตโคกลู ที่พาทีมตีตั๋วลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ แถมการเป็นนายใหญ่คนใหม่บีบให้เขาต้องคุมทีมออกสตาร์ตให้ดีที่สุดไปในตัว"
5. รูเบน อโมริม (แมนฯ ยูไนเต็ด)
"สถานภาพของ อโมริม แลดูง่อนแง่นหลังพาทีมจบอันดับ 15 เมื่อซีซั่นก่อน และได้รับการสนับสนุนในการเสริมทัพอย่างเต็มที่ซึ่งหมายความว่ากุนซือโปรตุกีสจะต้องพา ผีแดง กลับไปเล่นฟุตบอล ยุโรป ให้ได้อีกครั้ง"
4. สกอตต์ พาร์เกอร์ (เบิร์นลีย์)
"เบิร์นลีย์ เสริมทัพอย่างประหยัด แถมขายนายทวาร เจมส์ แทรฟฟอร์ด คืนให้ แมนฯ ซิตี้ มันจึงเสี่ยงต่อการสร้างผลงานอยู่รอดในลีกสูงสุด"
3. เรจิส เลอ บรีส์ (ซันเดอร์แลนด์)
"ในฐานะทีมน้องใหม่ เลอ บรีส์ กดดันตามระเบียบที่ต้องพยายามพาทีมอยู่รอดให้ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาไม่มีประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก มาก่อน แถม แมวดำ มีนักเตะอายุน้อยเป็นส่วนใหญ่ด้วย"
2. คีธ แอนดรูว์ส (เบรนท์ฟอร์ด)
"ไม่เพียงจะไร้ประสบการณ์ แต่โค้ชของทีมถูกเลื่อนให้รับบทนายใหญ่แทน แฟร้งค์ อีกทั้ง เดอะ บีส์ ขายนักเตะตัวหลักออกไปทั้ง ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และ คริสเตียน นอร์การ์ด อีกทั้งมีแววเสีย โยอัน วิสซ่า อีกรายจึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เขาจะตกงานอย่างรวดเร็ว"
1. ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ (ลีดส์)
"หลังพาทีม ยูงทอง เลื่อนชั้นได้สำเร็จ กุนซือชาวเยอรมนีถูกสื่อเมืองผู้ดีประโคมข่าวทันทีว่าจ่อโดนปลดเนื่องจากเคยพา นอริช ตกจากลีกสูงสุด แต่สุดท้ายมันเป็นแค่ข่าวโคมลอย ทว่าด้วยสถิติคุม นกขมิ้น กำชัยใน พรีเมียร์ลีก ได้แค่ 12% จึงทำให้เขาเสี่ยงต่อการกระเด็นออกจาก เอลแลนด์ โร้ด"