Soft Power ไทย ดัน Thailand Pavilion ดังกระหึ่ม ยอดผู้ชมทะลุล้าน ขึ้นแท่นเป็น 1 ในพาวิลเลี่ยนที่ต้องมาชมในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN
Soft Power ไทย ดัน Thailand Pavilion ดังกระหึ่ม ยอดผู้ชมทะลุล้าน ขึ้นแท่นเป็น 1 ในพาวิลเลี่ยนที่ต้องมาชมในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN
อาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) เป็น 1 ในพาวิลเลี่ยนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าชมงานทั่วโลกกว่า 1 ล้านคน เรียกว่าหากใครที่มางาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ต้องมาที่ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน หากกล่าวว่าอะไรคือ จุดแข็งที่ทำให้ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน ได้รับความนิยมมาก คงจะต้องเป็นพลัง Soft Power และเสน่ห์ของไทยที่สร้างความประทับใจให้ผู้ที่มาเข้าชมจากทั่วโลกกลับไปเยือนประเทศไทย ซึ่งประกอบไปด้วย
1. สถาปัตยกรรมไทยอันแสนงดงาม ที่ถ่ายทอดผ่าน อาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอันแสนงดงาม โดดเด่น ไม่ว่าใครที่ได้เห็นจะต้องหยุดมองและดึงดูดให้เข้าไปชม
2. นำเสนอดินแดนแห่งภูมิคุ้มกัน นั่นคือ ประเทศไทย ให้ทุกคนทั่วโลกได้รู้จักมากขึ้น ว่าเป็นสถานที่ที่ต้อนรับทุกคนให้สามารถมีชีวิตที่เปี่ยมสุขและมีสุขภาพดีได้ ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ อาหารที่หลากหลาย และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า พรั่งพร้อมด้วยระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และมีแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการทั้ง 7 โซน ประกอบไปด้วย
โซน 1 หมุดหมายสุขภาพโลก ให้ทั่วโลกได้ก้าวเข้ามาสัมผัสดินแดนแห่งความกินดี อยู่ดีสไตล์ไทยๆ
โซน 10 มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย นำเสนอวิถีชีวิตเเละภูมิปัญญาของคนไทย ดินแดนแห่งภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืน ผ่านอัตลักษณ์ทุกภูมิภาคในรูปแบบจิตรกรรมฝาผนัง ANIMATION และวิวทิวทัศน์ทั้ง 4 ภาคของไทย ที่แสดงวิถีการกินดีอยู่ดี และมีน้องภูมิใจออกมาโปรยภูมิให้กับผู้เข้าชม พร้อมสัมผัสประสบการณ์สุดล้ำภายในโรงภาพยนตร์ Wisdom of life Immersive Theater ที่ถ่ายทอดการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณความเป็นไทย ที่จะทำให้ผู้มาเยือนสุขกาย สบายใจ จากตะวันขึ้นจรดตะวันตกดิน ในดินแดนแห่งความมั่งคั่งด้านสุขภาพ ผ่านการจัดแสดงแบบ Immersive Experience ด้วยจอฉายภาพขนาดยักษ์ สูงกว่า 5 เมตร พร้อมระบบแสงสีเสียงสุดล้ำแบบจัดเต็ม
โซน 100 ศักยภาพสาธารณสุขไทย จัดแสดงเรื่องราวความโดดเด่นของสาธารณสุขไทย ภายใต้นโยบาย Thailand Medical hub 4 ด้าน ได้แก่ ด้าน Medical service hub การบริการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานสากล, ด้าน Academic hub ส่งเสริมการศึกษา มุ่งมั่นผลิตบุคลากรและสร้างองค์ความรู้ทางการแพทย์, ด้าน Wellness hub นำภูมิปัญญาผสานธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ เพราะ “ธรรมชาติ” คือ “ยา” ที่ดีที่สุด และด้าน Product Hub มุ่งเน้นผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมและรักษาอย่างมีมาตรฐาน เป็นอุตสาหกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจร พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ของไทยที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ ได้แก่ หุ่นยนต์ดินสอ Pro 4 ผู้ช่วยอัจฉริยะประจำแผนกผู้ป่วยนอก ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ, หุ่นยนต์ดินสอ mini เป็น Home AI Assistance ผู้ช่วยดูแล และเพื่อนผู้สูงอายุประจำบ้านเป็นหุ่นยนต์ที่ช่วยเฝ้าผู้ป่วยและเชื่อมต่อแพทย์ได้ 24 ชั่วโมง, 3D-printed personalized prosthesis / bone plate model แผ่นฟื้นฟูโครงสร้างกระดูก ออกแบบเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุหรือโรคกระดูก ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3D Printing และชุดหุ่นแขนสำหรับฝึกเจาะเลือด Artimed คุณสมบัติเสมือนผิวหนังมนุษย์อย่างสมจริง
โซน 1,000 สถานบริการทางการแพทย์: นำเสนอศักยภาพทางการแพทย์และการบริการของไทยที่ได้มาตรฐานในระดับสากล ผ่านทัชสกรีนที่สามารถเข้าถึงการรักษา 15 กลุ่มโรคที่นักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์นิยมมารักษาที่ไทย
โซน 10,000 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ: เรียนรู้วัตถุดิบและอาหารไทย ผ่านโซนจัดแสดงต่าง ๆ ได้แก่ “เกมรังสรรค์เมนูสุขภาพสไตล์คุณ” ผ่าน Art Wall Installation ผู้ชมสามารถเลือกดูเมนูอาหารติดอันดับผ่าน Interactive Table ทั้งยังต่อยอดเป็นเมนูฟิวชั่น และยังได้รู้จักกับ “สำรับอาหารไทย 4 ภาค” ที่จำลองเมนูสุขภาพของแต่ละภูมิภาค
โซน 100,000 ผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกัน: พบกับอาหารไทย อาทิ ส้มตำไทย, ต้มยำกุ้ง, ข้าวเหนียวไก่ย่าง,แกงมัสมั่นไก่, ผัดไทยกุ้งสด ฯลฯ มาสลับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดการจัดงาน รวมถึงพื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าเด่นจากประเทศไทย พร้อมกิจกรรมเวิร์คช็อปมากมายที่หมุนเวียนมาให้ผู้เข้าชมได้เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง
โซน 1,000,000 รอยยิ้มแห่งความประทับใจ: พื้นที่รวบรวมล้านความรู้สึกประทับใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ได้มีส่วนร่วมแบ่งปันรอยยิ้มให้กับคนทั่วโลก
3. นวดแผนไทย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติโดยองค์การยูเนสโก ซึ่งทั่วโลกต่างให้การยอมรับ โดยในครั้งนี้ได้นำหมอนวดที่มีความเชี่ยวชาญ ผ่านการอบรมและฝึกทักษะเพื่อการดูแลรักษาใน 7 กลุ่มอาการ มาสาธิตให้กับผู้เข้าชมได้ผ่อนคลาย ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
4. อาหารไทย นับเป็น Soft Power ที่สำคัญในการสร้างจุดขายให้กับประเทศและสร้างโอกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งตลอดการจัดงานได้นำเมนูอาหารไทยยอดนิยมมาให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสและลิ้มลอง
5. การแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทย เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผู้เข้าชมต่างพากันมารอชมที่บริเวณเวทีหน้าอาคารนิทรรศการไทย ด้วยความสวยงาม อ่อนช้อย และยังสร้างความสนุกสนาน ทำให้ทุกคนได้สัมผัสถึงบรรยากาศ และเอกลักษณ์ในแบบไทยผ่านการแสดงทุกชุด
6. ยิ้มสยามจากเจ้าหน้าที่ประจำอาคารนิทรรศการไทย การให้บริการด้วยรอยยิ้มของคนไทยเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของไทยที่ทั่วโลกรู้จักและได้รับการชื่นชมในระดับสากล ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่เป็นมิตรและอ่อนน้อมของคนไทย
สามารถไปชมความประทับใจทั้งหมดนี้ได้ที่อาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ตั้งแต่วันนี้ ถึง 13 ตุลาคม 2568 ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่ Website : Thailand Pavilion 2025 และทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ Thailand Pavilion World Expo 2025