“ไทย-อิสราเอล” ร่วมจัดการประชุมด้านความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นครั้งแรก
การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้กรอบของบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของอิสราเอล (ไอเอ็นซีดี) และสกมช. ของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
นอกจากนี้ การประชุมดังกล่าวยังถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ระหว่างประเทศไทยกับอิสราเอล โดยมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของทั้งสองประเทศ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมืออย่างใกล้ชิด
นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวในพิธีเปิดการประชุมว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับอิสราเอลและประเทศไทย ในการทำงานร่วมกัน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็น ระหว่างบุคคลและหน่วยงานของทั้งสองประเทศ
ท่านทูตซากิฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลายสิ่งหลายอย่างในปัจจุบัน อยู่ในรูปแบบของดิจิทัล ตั้งแต่แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ และอินเทอร์เน็ต ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบธนาคาร และระบบไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อรัฐบาล
ทั้งนี้ ท่านทูตซากิฟ มองว่าความเสี่ยงที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงรูปแบบใดก็ตาม กลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ส่งผลให้ทางการพยายามดำเนินการต่าง ๆ เพื่อนำหน้าผู้โจมตีทางไซเบอร์อยู่เสมอ อีกทั้งความเสี่ยงทางไซเบอร์ไม่มีขอบเขตจำกัด และไม่ใช่สงครามระหว่างประเทศ หรือสงครามข้ามพรมแดน ซึ่งความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็น
อนึ่ง อิสราเอลต้องรับมือกับความเสี่ยงต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศในทุกวัน ซึ่งไม่ได้มีแค่ความเสี่ยงทางกายภาพ แต่ยังรวมถึงความเสี่ยงทางไซเบอร์ด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อิสราเอลพัฒนา “โซลูชันที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก” ในด้านไซเบอร์
ท่านทูตซากิฟคิดว่า โครงการริเริ่มนี้ไม่เป็นเพียงเรื่องของการตอบสนองต่อภัยคุกคามและความเสี่ยงทางไซเบอร์ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการดำเนินการเชิงรุก การรับผิดชอบ และการป้องกันล่วงหน้า ซึ่งท่านทูตหวังว่า การประชุมตลอดระยะเวลาสามวัน จะมีความสำคัญต่อประเด็นข้างต้น
ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ พรหมวิกร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าวเปิดการประชุมว่า ในปัจจุบัน ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน
ดร.วราภรณ์ กล่าวเสริมว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นอันตรายต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย รวมถึงบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในระบบดิจิทัล ซึ่งภายใต้ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ความพยายามร่วมกันระหว่างประเทศไทยกับอิสราเอล ในการสร้างความร่วมมือ จึงมีความสำคัญยิ่งขึ้น
สำหรับการประชุมระยะเวลาสามวัน ผู้เข้าร่วมประชุมจากทั้งสองประเทศ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูง ผู้บริหารด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ได้รับฟังการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ชั้นนำจากอิสราเอล โดยมีการยกตัวอย่างกรณีศึกษา และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงลึก เพื่อสำรวจภัยคุกคามทางไซเบอร์ยุคใหม่ ตลอดจนมีการศึกษาแนวปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุด และการหารือแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และเศรษฐกิจในโลกยุคดิจิทัล.