ตร. ชี้หากพบ 'หมอบี' ฉ้อโกง แจ้งข้อหาได้ทันที ฉะ ฟังไม่ขึ้น อ้างยืมรถจากเงินบริจาคขับ
ตร.กองปราบ ชี้ หมอบี เปิดบัญชีรับบริจาคให้วัดพระบาทน้ำพุ นาน 6 ปี ต้องใช้เวลาตรวจสอบ ยัน ถ้าพบว่าฉ้อโกงจริง แจ้งเอาผิดได้ทันทีไม่ต้องรอ ‘หลวงพ่ออลงกต’ ร้องทุกข์ ย้ำเงินบริจาคซื้อทรัพย์สินให้วัด ต้องเป็นชื่อวัด อ้างยืมขับไม่ได้ฟังไม่ขึ้น ขอประชาชนอย่ากังวล ปมยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน เหตุตรวจสอบได้ทั้งหมด หากผิดฐานฟอกเงินจริง เส้นเงินถึงใคร โดนทั้งหมด
จากกรณี เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ พร้อมด้วยแฟนสาวและทนายความ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งหมอบีไม่ได้ตอบคำถามสื่อใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่เพียงทนายความตอบผู้สื่อข่าวสั้นๆ ก่อนขึ้นลิฟต์ว่า “เดี๋ยววันนี้ได้เอาเอกสารบางอย่างมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมเท่านั้น”
ต่อมา พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังการประชุมของคณะทำงานคดีระหว่าง หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ และวัดพระบาทน้ำพุ ว่าในวันนี้ที่ประชุมได้กำหนดกรอบแนวทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินการสอบสวนคดีดังกล่าว โดยในส่วนของ บก.ป.นั้นจะมุ่งเน้นคดีระหว่างหมอบีและวัดพระบาทน้ำพุเป็นหลัก แต่เนื่องจากมีข้อมูลเป็นจำนวนมาก จึงต้องวางแนวทางเพื่อไล่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทั้งจากพยานหลักฐานและตามสื่อมวลชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของบัญชีธนาคารของนายเสกสันน์ที่เปิดให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งตรวจสอบย้อนหลังพบตั้งแต่ปี 2562 เป็นอย่างน้อย รวมประมาณ 6 ปี จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอย่างรอบคอบและชัดเจนเพราะมีข้อมูลเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวมีความสำคัญ เพราะส่งผลกับความรู้สึกของประชาชนผู้บริจาคเงิน ซึ่งเกรงว่าเงินที่บริจาคไปอาจจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ดังนั้น จากพยานหลักฐานที่ทางตำรวจมีเบื้องต้นจึงทำให้ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า คดีดังกล่าวไม่จำเป็นต้องรอให้ทางวัดหรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ มาแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด เพราะมีพฤติการณ์ที่แน่ชัดว่าจะเข้าข่ายในข้อหาฉ้อโกงประชาชนที่พนักงานสอบสวนสามารถแจ้งข้อหาได้เอง
ในการนี้ ที่ประชุมยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินจากบรรดาประชาชนที่โอนบัญชีบริจาคให้กับวัดโดยตรงและบริจาคผ่านบัญชีของนายเสกสันน์ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักระยะเช่นเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จากการสอบสวนคาดว่าคดีจะถึงขั้นออกหมายภายในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่ พ.ต.อ.เอนกกล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะต้องทำงานตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบก่อน
ส่วนวันนี้ที่นายเสกสันน์เดินทางมาที่ บก.ป.นั้นเป็นการเดินทางมาตามนัดหมายของตำรวจฝ่ายสืบสวนกองปราบปราม เพื่อนำพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องในคดีมาพูดคุย แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมานั้น หมอบีก็ได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจในระดับหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจก็รับฟัง แต่จะเชื่อหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานด้วย
สำหรับประเด็นเรื่องทรัพย์สินของวัดที่ตอนนี้ถูกเปิดเผยว่ามีการให้บุคคลอื่นมาถือครองแทน ทาง บก.ป.จะรับเรื่องดังกล่าวมาตรวจสอบด้วย โดยจะบูรณาการกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเอง ทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ก็ได้ลงมาพูดคุยกับคณะพนักงานสอบสวน
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.เอนกเปิดเผยว่า โดยหลักแล้ว เงินที่ได้มาจากการทำบุญของพี่น้องประชาชน เมื่อนำไปซื้อทรัพย์สินของวัด ชื่อเจ้าของต้องเป็นของวัด หากใช้ชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของ ต้องย้อนกลับไปว่ามีเจตนาส่อทุจริตหรือไม่ หากมีเจตนาส่อทุจริต ย่อมถือว่าเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว
เช่นเดียวกับกรณีที่นายเสกสันน์อ้างว่านำเงินไปซื้อรถให้วัด แต่ภายหลังอ้างว่าขอยืมมาขับและใช้ชื่อบุคคลอื่น ก็ต้องตรวจสอบต่อว่า เมื่อซื้อรถให้วัด ก็ต้องใช้ชื่อวัด แต่ถ้าใช้ชื่อบุคคลอื่นนั้นก็ส่อทุจริตเช่นเดียวกัน การที่บอกว่ายืมแป๊บเดียวแล้วถึงจะโอนคืน ตนมองว่าเป็นข้ออ้างที่เลื่อนลอย
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีกรณีที่วัดพระบาทน้ำพุเคยเปิดโครงการรับบริจาคไถ่ชีวิตโคกระบือในนามมูลนิธิของวัด แต่ภายหลังได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้ผู้บริจาค เป็นเรื่องของการบริจาคสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ เรื่องนี้ พ.ต.อ.เอนกกล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่า การที่ออกใบอนุโมทนาบัตรไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคนั้นเข้าข่ายเป็นการทุจริตหรือไม่ และต้องดูว่าทำไปทำไม มีสาเหตุเพราะอะไร
พ.ต.อ.เอนกยังกล่าวเสริมอีกว่า จากที่มีสังคมตั้งข้อกังวลกลัวว่าในระหว่างนี้อาจเกิดการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินก่อนจะดำเนินคดี ขอให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องดังกล่าว เพราะการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินนั้นย่อมปรากฏร่องรอยอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาที่จะตรวจสอบ
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหลักฐานในคดีนี้ไปถึงขั้นการแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน หรืออาจถึงขั้นข้อหาเจ้าพนักงานกระทำการทุจริตประพฤติมิชอบหรือยักยอกทรัพย์ ข้อหาเหล่านี้เป็นมูลฐานความผิดฟอกเงิน ใครที่รับโอนทรัพย์สินจากการยักย้ายขายเทไป ก็ย่อมมีความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ตร. ชี้หากพบ ‘หมอบี’ ฉ้อโกง แจ้งข้อหาได้ทันที ฉะ ฟังไม่ขึ้น อ้างยืมรถจากเงินบริจาคขับ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th