พม.ชี้ต้องปรับมายด์เซ็ทใหม่ในการรับมือกับผู้สูงอายุ
วราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยของเรามีผู้สูงอายุ ถ้าเทียบกับประชากรของไทยปัจจุบันที่ 64,800,000 คน มีประชากรกลุ่มผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 21-22% เป็นประชากรกลุ่มที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวนอกจากเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นแล้ว คือพอเกิน 20% ขึ้นไป มันทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ และถ้าเกิน 25% ขึ้นไปจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุในประเทศไทย มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย ทำให้จากนี้ไปไม่ถึง 10 ปี ที่เพิ่มขึ้น 21-22% จะกลายเป็น 25% ภายในไม่เกินจากนี้
สิ่งเหล่านี้ทำให้รัฐบาล ภาคราชการหรือภาคเอกชนจะต้องเตรียมตัวรับมือกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น แต่การรับมือในเรื่องนี้ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี เพราะถือเป็นโอกาสใหม่ที่สามารถเกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น ธุรกิจหรือว่าอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นจากนี้ไปจะกลายเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “เฮลล์ แคร์” ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ธุรกิจการให้บริการ ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Trademark ของประเทศไทยอยู่แล้ว เรามี Thai Hospitality เรามี Thai Touch ที่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้มีประสิทธิภาพมากกว่าอีกหลายประเทศ
ทั้งนี้ การเตรียมตัวเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด เป็นสิ่งที่ภาคราชการกำลังเร่งดำเนินการ โดยในส่วนของ พม. มีโครงการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นโครงการนักบริบาลและพิทักษ์สิทธิผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่ทับซ้อนกับ อสม. ของกระทรวงสาธารณสุข เพราะกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลเกี่ยวกับสุขภาพ แต่ พม. ในส่วนของนักบริบาลและพิทักษ์สิทธิ์ผู้สูงอายุจะทำหน้าที่ดูแลภาพชีวิตของผู้สูงอายุคนหนึ่งว่า สุขภาพเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมในบ้านเป็นอย่างไร อยู่กันในครอบครัวมีความรุนแรงมั้ย มีปัญหาอะไรหรือไม่ สภาพจิตใจเป็นอย่างไร มีโอกาสที่จะโดนกลุ่มมิจฉาชีพโทรมาหลอกเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไหม
นอกจากนี้ พม. ยังได้ประสานงานกับการเคหะ ดำเนินโครงการที่จะเป็นยูนิตรองรับสำหรับรองรับกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นที่ อ.บางละมุง และอีกหลายหลายพื้นที่ที่กำลังเตรียมการอยู่ ซึ่งที่พักอาศัยของผู้สูงอายุจะต้องตอบโจทย์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ เรื่องความปลอดภัย ถือเป็นภารกิจหลักที่ตนได้ขอให้การเคหะดำเนินการเพิ่มเติม
โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะทำให้คุณภาพชีวิตกลุ่มผู้สูงอายุไทยเป็นอย่างไร
• คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ขึ้นอยู่กับสมาชิกในครอบครัว แต่อีกส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้สูงอายุเอง เพราะเราจะเห็นว่าบางคนแม้จะเข้าสู่วัยเกษียณอายุราชการแล้ว หรือเกษียณอายุงานไปแล้ว หน่วยงานก็ยังขอให้ทำงานต่อ ทำให้ผู้สูงอายุคนนั้นยังแอคทีฟอยู่ ทำให้เขาได้ปพัฒนาทั้งกายและใจ ทำให้ตระหนักว่าตนเองยังมีคุณค่าอยู่ สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมได้ ดังนั้นการทำให้ผู้สูงอายุอยู่ในวังวนการทำงาน จะทำให้เค้ามีกิจกรรมทำ
ความท้าทายในการรับมือกับสังคมสูงวัยคืออะไร
• คือการปรับมายด์เซ็ท หรือว่าปรับแนวความคิด ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ ส่วนราชการ และตัวของผู้สูงอายุ ที่จะต้องเตรียมตัว เตรียมใจตั้งแต่ก่อนแก่ ดังนั้นการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง การใช้สมอง เป็นสิ่งสำคัญสำหรับดูแลตัวเอง รวมถึงคนรอบที่ต้องหากิจกรรมให้กับผู้สูงอายุทำ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ที่มีการนำแรงงานกลุ่มผู้สูงอายุมาทำงาน ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าให้กับประชากรกลุ่มนี้ ดังนั้นความท้าทายของสังคมไทยคือ การดึงเอากลุ่มผู้สูงอายุกลับเข้ามาอยู่ในวังวนของการทำงานใหม่ เพราะปัจจุบันจำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยลงไป แรงงานที่มีมันก็จะหดหายไป ซึ่งวันนี้คนอายุ 65 ปี ไม่เหมือนคนอายุ 65ปี เมื่อ 40 ปีที่แล้ว โดยการดึงผู้สูงอายุกลับมาอยู่ในการทำงาน ได้ทั้งโปรดักซ์ ได้ทำให้คนสูงวัยไม่เหี่ยวเฉา ไม่เจ็บไขได้ป่วย ไม่เป็นภาระของสาธารณสุข เหมือนยิงปืนนัดเดียว ได้นก 2 ตัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง