ปปป.รวบแล้ว! สีกาคู่ใจ อดีตเจ้าคณะนครสวรรค์ หลังพบหลักฐานสำคัญ
14 สิงหาคม 2568 เวลา 12.00 น.พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.สั่งการให้พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ศาณุวงศ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป.นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ภูธินี อายุ 57 ปี ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ที่ 75/2568 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ในข้อหา เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ คูคต จ.ปทุมธานี ก่อนนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่บก.ปปป.และจะมีการแถลงข่าวในช่วงเย็นวันนี้ เวลาประมาณ 17.00 น.
ส่วนนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ อายุ 67 ปี อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 74/2568 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแกผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จะมีการติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.ในเวลา 16.30 น.วันเดียวกันนี้
สำหรับคดีดังกล่าว อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ หรือนายสฤษฏิ์ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ไปด้วย จากการสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.2567-10 ก.ค.2568 นายสฤษฏิ์ สั่งให้พระศตยา พระลูกวัดเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ และนำฝากเข้าบัญชีพระศตยา ก่อนโอนต่อเข้าบัญชีส่วนตัวกว่า 4,100,000 บาท
ต่อมาพบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีเจ้าอาวาสเข้าไปยังบัญชีของน.ส.ภูธินี รวมแล้วประมาณ 405,000 บาท แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์สมคบกันยักยอกเงินวัด โดยพระศตยา ให้การยืนยันว่าได้รับคำสั่งโดยตรงจากอดีตเจ้าอาวาส ให้เบิกถอนและโอนเงิน รวมทั้งยังพบเห็น น.ส.ภูธินี เข้ามาพบอดีตเจ้าอาวาสที่วัดเป็นประจำ วัดนครสวรรค์ จึงมอบตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ บก.ปปป. จากนั้นพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ก่อนจะมีการเข้าจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสืบสวนแล้ว พบพฤติกรรมสัมพันธ์ฉาวระหว่างอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ หรือ ทิดสฤษดิ์ กับเศรษฐีนีสาวใหญ่นั้น พบข้อมูลสำคัญที่เชื่อได้ว่า นอกเหนือจากผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรงแล้ว ทิดสฤษดิ์ยังกระทำผิดคดีอาญาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตเงินของวัดด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนแล้ว จึงนำกำลังจับกุมตัว
นอกจากนี้ จากข้อมูลของการสืบสวนพบว่า ทิดสฤษดิ์ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ ที่ดำเนินการมากว่า 10 ปี แต่ยังไม่เสร็จ จนกระทั่ง หลวงพ่อพัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน เกจิดังนครสวรรค์ เข้ามาช่วยบริหารจัดการต่อในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งก่อสร้างเสร็จได้ในที่สุด เรื่องดังกล่าวนั้น ทางพนักสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบเท็จจริงต่อไป