‘เซ็นทรัลฯ ‘จัดระบบห้องแยกขยะครบวงจร ลดเผา-ฝังกลบ
ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้น ปัญหาที่เรื้อรังมายาวนานอย่าง “ขยะ” ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งเหลือใช้ที่ทิ้งไปเท่านั้น แต่กำลังกลายเป็นภัยที่คุกคามทั้งสุขภาพของมนุษย์และความสมดุลของระบบนิเวศทั่วโลก ปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการบริโภคที่ไม่ยั่งยืน และระบบจัดการที่ยังไม่สามารถรองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขยะจำนวนมากยังคงถูกส่งไปฝังกลบหรือเผาทำลาย โดยมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ได้รับการคัดแยกและนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเหมาะสม หากยังเพิกเฉยและไม่เริ่มลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง ปัญหาขยะจะยิ่งสะสมและกลายเป็นภาระที่ยากเกินจะฟื้นฟูในอนาคต
กลุ่มเซ็นทรัล ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกและบริการของไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงกับผู้บริโภคและชุมชนทั่วประเทศ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนพันธกิจด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน คู่ค้า ลูกค้า และประชาชนทั่วไป ภายใต้แคมเปญ Love the Earth: Zero Waste รักโลกต้องเริ่มเลย
โดยเป้าหมายหลักในการพัฒนา โมเดล Zero Waste แบบครบวงจร ที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมการลด แยก และจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ทั้งยังตอกย้ำบทบาทของกลุ่มเซ็นทรัลในฐานะองค์กรค้าปลีกที่มีระบบจัดการขยะครบวงจร และเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด โดยเฉพาะการส่งเสริมความตระหนักรู้และการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ไปยังคู่ค้า ลูกค้า และประชาชนทั่วไป เพราะเชื่อว่าการแยกขยะอย่างถูกต้องคือก้าวสำคัญในการมุ่งสู่เป้าหมาย Zero Waste to Landfill
“หากทุกคนเริ่มเห็นคุณค่าของการจัดการขยะ และเข้ามามีส่วนร่วมในแคมเปญ Love The Earth: Zero Waste รักโลกต้องเริ่มเลย ก็จะสามารถจุดประกายการเปลี่ยนแปลงที่ขยายออกไปสู่ครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวมได้อย่างยั่งยืน และภูมิใจที่ได้เห็นความร่วมมืออย่างดีจากร้านค้าภายในศูนย์การค้า ที่ร่วมกันขับเคลื่อนโมเดลต้นแบบในครั้งนี้” พิชัย กล่าว
สำหรับ โมเดล Zero Waste แบบครบวงจร พิชัย กล่าวว่า ได้เริ่มต้นนำร่องที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเน้นการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง มีการจัดตั้งศูนย์คัดแยกขยะที่ได้มาตรฐานระดับสากล และที่เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ปรับปรุงห้องพักขยะใหม่ล่าสุด พร้อมทั้งจับมือกับหน่วยงานจัดการขยะ เพื่อนำขยะไปกำจัดอย่างถูกวิธี ลดการนำไปฝังกลบอย่างสิ้นเปลือง ในเฟสแรก มีร้านค้าภายในศูนย์ฯ เข้าร่วมแล้วมากกว่า 200 ร้านค้า ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ทั้งแฟชั่น อาหาร และเครื่องดื่ม โดยร้านค้าที่ปฏิบัติตามแนวทางของโครงการอย่างจริงจัง จะได้รับตราสัญลักษณ์ Love the Earth: Zero Waste เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดูแลสิ่งแวดล้อม
“กลุ่มเซ็นทรัลมีแผนขยายผลโครงการสู่ศูนย์การค้าทั่วประเทศ ซึ่งในปี 2024 ที่ผ่านมา สามารถลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบได้ถึง 43,600 ตัน พร้อมขยายความรู้ด้านการแยกขยะไปสู่ 190 ชุมชน ภายใต้โครงการ เซ็นทรัล ทำ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายลดขยะที่ต้องฝังกลบให้เหลือเพียง 30% ภายในปี 2573 และเดินหน้าสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2593 เพราะกลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นว่า ความยั่งยืน ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือภารกิจร่วมกันของทุกคนในสังคม” พิชัย กล่าว
ชณัฐ วุฒิวิกัยการ เจ้าของเพจ KongGreenGreen ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบห้องพักขยะ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวว่า ห้องพักขยะ สำหรับศูนย์การค้าโซนใหม่ จากการเข้าไปสำรวจห้องพักขยะของศูนย์ฯ ได้เรียนรู้ว่าการจัดการขยะที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องการแยกขยะเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ ระบบ ความร่วมมือ และการสื่อสาร โดยเฉพาะการออกแบบที่ต้องตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม เช่น พนักงานศูนย์การค้า แม่บ้าน หรือพนักงานร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งต้องเข้าใจง่าย ปลอดภัย และอยู่ในงบประมาณที่เหมาะสม
ชณัฐ กล่าวถึงแนวคิดหลัก คือการออกแบบพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง และสื่อสารได้ เริ่มต้นจากการแบ่งโซนให้ชัดเจน เช่น โซนขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป ขยะเปียก และขยะอันตราย โดยวัสดุต่าง ๆ จะถูกแยกตามประเภทอย่างละเอียด เช่น พลาสติกยืด ขวด PET โลหะ และกระดาษ เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลและชั่งน้ำหนักได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ทางเซ็นทรัลมีระบบเดิมที่ดีอยู่แล้ว เพียงแค่นำมาออกแบบใหม่ให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน และรองรับการใช้งานของทุกฝ่าย
ชณัฐ กล่าวต่อว่า โดยก่อนหน้านี้การแยกขยะมักพึ่งพาพนักงาน กทม. คัดแยกที่ท้ายรถขยะ แต่แนวคิดของห้องใหม่คือ ทุกคนต้องมีส่วนร่วม เช่น พนักงานร้านสามารถนำขยะของตัวเองมาคัดแยกและจัดวางให้ถูกต้องได้เลย เพื่อช่วยลดภาระ และทำให้ระบบหลังบ้านทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในกระบวนการออกแบบได้ทำงานร่วมกับวิศวกรของศูนย์การค้า รวมถึงฝ่าย CI ของเซ็นทรัล เพื่อให้การจัดการขยะเป็นระบบเดียวกัน ตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงจุดพักขยะท้ายสุด ซึ่งจะช่วยให้สามารถ สื่อสารแบบเดียวกันได้ทั่วทั้งศูนย์การค้า
“มีการออกแบบป้าย สัญลักษณ์ และระบบการสื่อสารที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจง่ายแม้จะมาจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม โดยยึดหลักของระบบแยกขยะที่คุ้นเคย เช่น ขยะทั่วไป – สีน้ำเงิน ขยะรีไซเคิล – สีเหลือง (โดยแยกเป็นหมวดย่อย เช่น พลาสติก PET, พลาสติกยืด, โลหะ, กระดาษ ฯลฯ) ขยะอินทรีย์ – สีเขียว ขยะอันตราย – สีส้ม ทั้งหมดนี้ เพื่อให้การจัดการขยะไม่ใช่เพียงงานหลังบ้าน แต่เป็นระบบที่ทุกคนเข้าใจและมีส่วนร่วมได้” ชณัฐ กล่าว
ทั้งนี้กลุ่มเซ็นทรัลร่วมมือกับพันธมิตรร้านค้าชั้นนำในศูนย์การค้า เช่น CRG, ZEN, MK, Minor Food, Coffee Concept, Food Passion และอื่น ๆ ขับเคลื่อนเป้าหมาย Zero Waste ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ลด – แยก – จัดการ 1.ลด: ใช้น้อย ลดใช้ เลี่ยงสิ่งไม่จำเป็น เช่น Say No To Plastic Bags กลุ่มเซ็นทรัลรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกตั้งแต่ปี 2561 มีผู้เข้าร่วมกว่า 3 ล้านราย ช่วยปฏิเสธถุงพลาสติกกว่า 12 ล้านครั้ง พร้อมแจกคะแนน The 1 กว่า 130 ล้านคะแนน, CRG Say No to Plastic ลดการใช้พลาสติกในธุรกิจอาหาร โดยเปลี่ยนมาใช้วัสดุย่อยสลายได้ 100% ลดขยะพลาสติกกว่า 16.5 ล้านชิ้น, Surplus Food ส่งต่ออาหารส่วนเกินจาก 200 สาขา สู่ 807 ชุมชนทั่วประเทศ ลดขยะอาหาร 568 ตัน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1,438 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า, ไทวัสดุ ปรับระบบขนส่ง ลดการใช้ฟิล์มพลาสติก 10.54 ตัน ประหยัดค่าขนส่งได้ถึง 20.4 ล้านบาท/ปี
2.แยก: คัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เช่น Better Bottle รับบริจาคขวด PET เพื่อนำไปผลิต PPE ผ้าห่ม และเสื้อกันหนาวให้ผู้ขาดแคลน, ปลา P.O.P. โรงแรมในเครือเซ็นทารา 28 แห่งร่วมแยกขยะพลาสติกรีไซเคิลรวม 743.62 กก., Recycle Day & One Recycling Drop a Month รณรงค์แยกขยะในสำนักงาน ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 2,800 ต้น ปี 2567 คัดแยกขยะรีไซเคิลแล้วกว่า 49.6 ตัน จากผู้เข้าร่วมกิจกรรม 2,820 คน
3.จัดการ: ส่งต่อขยะสู่ระบบกำจัดอย่างถูกวิธี อย่าง ห้องพักขยะ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้รับการปรับปรุงให้เป็นพื้นที่สะอาด ปลอดภัย พร้อมจัดระบบแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ, Recycle Station จุดรับขยะแบบ Drive-Thru มีครบ 10 สาขาทั่วประเทศ ปี 2567 คัดแยกได้ 801.31 ตัน ลดก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 365,000 ต้น, ขยะกำพร้าสัญจร (RDF) รับขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ เพื่อนำไปแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง เช่น ที่เซ็นทรัล อีสต์วิลล์และศรีราชา รับรวม 17,340 กก. ผลิตก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์ โรงแรมในเครือเซ็นทาราใช้เศษอาหารผลิตพลังงานสะอาด ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 3,024 กก.คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า