ไมเกรน VS เส้นเลือดสมองแตก อาการคล้ายกัน หมอเจด เผยวิธีแยก แบบชัด ๆ
"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
ไมเกรน VSเส้นเลือดสมองแตก อาการมันคล้ายกัน แต่แยกยังไง?
หลายคนเป็นนะครับ อยู่ดี ๆ ก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วใจแว้บคิด
“นี่เราเป็นไมเกรนอีกแล้ว หรือมันจะเป็นเส้นเลือดสมองแตกกันแน่?”
บอกเลยว่าหลายคนแยกไม่ออกจริง ๆ เพราะบางอาการมันคล้ายกันมาก จนถ้าไม่เคยรู้มาก่อนอาจชะล่าใจได้
วันนี้ผมจะเล่าให้ฟังว่า ไมเกรนกับเส้นเลือดสมองแตกมันต่างกันยังไง และมีวิธีดูตัวเองแบบง่าย ๆ 5 ข้อ
1. วิธีเริ่มปวด
•ไมเกรน: ปวดจะมาแบบมีสัญญาณเตือนก่อน (บางคนเรียกว่า aura) เช่น เห็นแสงวูบ ๆ วิ่งในตา เห็นจุดดำ หรือมือชา ปากชาก่อนปวดหัวจริง ๆ สักพัก ลักษณะปวดก็จะเป็นแบบตุบ ๆ หนัก ๆ ข้างเดียว (หรือสองข้างก็มี) ปวดต่อเนื่องเป็นชั่วโมง-วัน
•เส้นเลือดสมองแตก: มักมาแบบกระทันหัน คืออยู่ดี ๆ ก็ปวดแรงสุดในชีวิต ตั้งแต่วินาทีแรก ไม่มีสัญญาณเตือน แถมบางคนปวดจนล้มลงหรือหมดสติเลย
ถ้าปวดแบบค่อย ๆ แรงขึ้นทีละนิด อาจเป็นไมเกรน แต่ถ้าปวดแรงแบบฟาดเดียวจอด ควรคิดถึงเส้นเลือดสมองแตกไว้ก่อน
2. อาการอื่นที่มากับอาการปวดหัว
•ไมเกรน: มักจะมาคู่กับคลื่นไส้ อาเจียน ตาสู้แสงไม่ได้ หูไม่ชอบเสียงดัง แต่ส่วนใหญ่ “ยังพูดรู้เรื่อง” แขนขายังใช้ได้ปกติ
•เส้นเลือดสมองแตก: อาจมีแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด มองภาพซ้อน หรืออยู่ดี ๆ ก็สับสนเหมือนคนหลงทาง บางคนหมดสติไปเลย
ถ้าปวดหัวแล้วเริ่มพูดไม่ชัด หรือแขนขาไม่ขยับ รีบโทร 1669 ทันทีนะครับ เพราะนี่คือ “เวลาทอง” ที่จะช่วยชีวิตและลดความพิการได้
3. ระยะเวลาและความแรงของอาการ
•ไมเกรน: จะค่อย ๆ ปวดมากขึ้นใน 1-2 ชั่วโมงแรก แล้วปวดต่อไปอีกหลายชั่วโมงหรือเป็นวัน ปวดมากแต่ยังพอทนได้บ้าง
•เส้นเลือดสมองแตก: แรงสุดตั้งแต่เริ่มแรก ปวดจนทำอะไรต่อไม่ได้ทันที
ถ้าเทียบให้เห็นภาพ ไมเกรนเหมือนน้ำเดือดที่ค่อย ๆ ร้อนขึ้น แต่เส้นเลือดสมองแตกเหมือนน้ำเดือดกระเด็นใส่หน้าทันที
4. ประวัติเดิมและตัวกระตุ้น
•ไมเกรน: มักมีประวัติเป็นซ้ำ ๆ อยู่แล้ว และมักจะมีตัวกระตุ้น เช่น อดนอน เครียด แสงจ้า อากาศเปลี่ยน หรือกินอาหารบางอย่าง (ช็อกโกแลต ไวน์ ชีส)
•เส้นเลือดสมองแตก: มักเกิดกับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน ไขมันสูง สูบบุหรี่ ดื่มหนัก หรือไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อนในชีวิต
ถ้าเป็นปวดแบบที่คุ้นเคย มีตัวกระตุ้นเหมือนเดิม อาจจะเป็นไมเกรน แต่ถ้าเป็นครั้งแรกและแรงผิดปกติ อย่าเดานะครับ รีบไปหาหมอเลย
5. เทคนิค B.E.F.A.S.T! – เช็กอาการหลอดเลือดสมองแตกให้ไว
“โรคหลอดเลือดสมอง” เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของ อัมพฤกษ์ อัมพาต และการเสียชีวิตทั่วโลกนะครับ
แต่ถ้ารู้สัญญาณเตือนและรีบไปโรงพยาบาลทัน ยังมีโอกาสรักษาให้ฟื้นตัวได้
จำง่าย ๆ ด้วยคำว่า B.E.F.A.S.T.!
•B - Balance: อยู่ดี ๆ ก็เสียการทรงตัว เดินเซ ล้มง่าย
•E - Eye: มองเห็นภาพซ้อน มัว หรือบางข้างเห็นไม่ชัด
•F - Face: หน้าบิดเบี้ยว มุมปากตก ยิ้มแล้วไม่เท่ากัน
•A - Arm: แขนขาอ่อนแรง ยกไม่ขึ้น หรือตกลงมาเอง
•S - Speech: พูดลำบาก พูดไม่ชัด หรือพูดไม่รู้เรื่อง
•T - Time: เวลาเป็นสิ่งสำคัญ! ถ้ามีอาการ รีบโทร 1669 หรือไปโรงพยาบาลทันที
จำไว้นะครับ “เวลา” คือชีวิต! ถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรถึงมือหมอภายใน 4 ชั่วโมง เพราะเป็นช่วงที่การรักษาได้ผลดีที่สุด
ไมเกรนกับเส้นเลือดสมองแตก แม้อาการบางอย่างจะคล้ายกัน แต่ “ความอันตราย” ต่างกันคนละระดับ
ไมเกรนส่วนใหญ่ไม่ถึงตาย แต่ทรมานและกระทบคุณภาพชีวิต
เส้นเลือดสมองแตก ถ้าช้าแม้ไม่กี่นาที อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปตลอดกาล
เพราะงั้น ถ้าปวดหัวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ปวดรุนแรงทันที หรือมีอาการ B.E.F.A.S.T. ตามที่เล่าไป
อย่าเดา – อย่ารอ – อย่าเสี่ยง รีบไปโรงพยาบาลทันที
แต่ย้ำก่อนว่าไม่ว่าจะปวดหัวแบบไหน ก็ควรไปหาหมอและตรวจเพื่อความชัวร์นะ
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะไมเกรนหรือโรคหลอดเลือดสมอง การป้องกันสำคัญที่สุด
อย่าลืมดูแลความดัน เบาหวาน ไขมัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนให้พอ
ใครมีคำถามคอมเมนต์ได้เลยนะครับ