"สุชาติ"รมต.ประจำสำนักนายกฯ เตรียมลงวัดพระบาทน้ำพุ ติดตามปมเงินบริจาคมูลนิธิ
(18ส.ค.68) นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ ตนจะลงพื้นที่วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ติดตามการสอบสวนมีความคืบหน้าอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ เป็นเรื่องใหญ่โตพอสมควร และสะเทือนไปทั้งวงการพระพุทธศาสนา โดยการสอบสวนจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เงินบริจาคมูลนิธิ ซึ่งวัดได้ตั้งมูลนิธิประมาณ 4-5 แห่ง และมูลนิธิที่มีปัญหามากที่สุด คือ มูลนิธิใจฟ้า ที่มีนายเสกสันน์ หรือ หมอบี แต่ความเป็นจริงแล้วหมอบีไม่น่าจะไปเกี่ยวกับวัด เพราะเป็นเพียงอาสาสมัครที่ไปเปิดบัญชีตัวเอง และบอกว่าเอาเงินเข้าวัด ตรงนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย และอยู่ระหว่างสอบสวนของตำรวจกองปราบ ซึ่งตนก็ต้องไปดูด้วยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว หากไม่ถูกต้อง ไม่สุจริต ก็ต้องรีบดำเนินการ
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า อีกส่วนคือส่วนของเงินวัด ทางสำนักพระพุทธศาสนามีอำนาจตรวจสอบบัญชีวัด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานมาว่า มีอะไรผิดปกติบ้าง ทั้งนี้ วัดหลายแห่งอาจจะเลี่ยงการบริจาคเงินเข้ามูลนิธิ และสำนักพุทธไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเรื่องของมูลนิธิ ไม่ใช่เรื่องของเงินวัด ซึ่งมีการใช้เทคนิคนี้หลายแห่ง อาจจะต้องใช้เคสนี้มาเป็นกรณีศึกษาในการแก้ระเบียบ ถ้ามีการรั่วไหล หรือมีช่องว่างทางกฎหมาย เอาเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
ส่วนกรณีที่นายนิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี การันตีว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุไม่ผิด นายสุชาติ ระบุว่า ตนก็ไม่รู้ว่า ผิดหรือไม่ผิด จึงต้องไปดู ซึ่งสำนักพุทธฯ มีหน้าที่ตรวจสอบวัด และคุมการดำเนินงานของหลวงพ่อ ก็ยังไม่มีการรายงานว่าผิดปกติหรืออย่างไร เหมือนกับที่ตนอธิบายไปว่า แบ่งการตรวจสอบเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องเงินบริจาคที่เป็นบัญชีของวัด ซึ่งต้องส่งให้สำนักพุทธตรวจสอบ ตรงนี้อาจไม่พบความผิดปกติก็ได้ แต่ในส่วนของเงินบริจาคเข้ามูลนิธิที่มีความเป็นห่วง เพราะเป็นเงินจำนวนมาก มูลนิธิใจฟ้าที่เปิดบัญชีเกี่ยวข้องกับหมอบี มีการเอาชื่อวัดไปหากินแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ ก็ต้องไปดูให้แน่ รวมถึงอีก 4 - 5 มูลนิธิที่มีการเอาเงินไปช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์ ด้านการศึกษา และคนยากจนบ้าง ตนเองก็จะไปดูในรายละเอียดตรงนี้
นายสุชาติ ยังกล่าวอีกว่า วัดต้องชี้แจงทุกเรื่องทั้งเงินบริจาคเข้าวัดโดยตรง และเงินจากมูลนิธิต่างๆ ตนเองก็จะไปขอตรวจว่า มีที่มาอย่างไร ใช้ตรงวัตถุประสงค์ตามการจัดตั้งมูลนิธิหรือไม่ ตรงตามข้อบังคับหรือไม่ แม้จะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ก็ต้องไปขอดู ถ้าเจออะไรผิดปกติก็แจ้งตำรวจหรือกระทรวงมหาดไทยให้ดำเนินการ
เมื่อถามว่า จะเชิญกระทรวงสาธารณสุขร่วมลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ด้วยหรือไม่ เพราะมีรายงานข่าวว่า มีการพยายามขัดขวางให้ยาต้านไวรัสกับผู้ป่วย HIV มาตั้งแต่ปี 2008 นายสุชาติ กล่าวว่า ตรงนี้อาจยังไม่ใช่อำนาจของสำนักพุทธฯ การรักษาพยาบาลเป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุข แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ พรุ่งนี้ไปจะได้ทราบรายละเอียดเชิงลึกมากขึ้น ส่วนจะมีการเชิญกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่หรือไม่ พรุ่งนี้ก็จะไปฟังรายละเอียดก่อนว่า ในพื้นที่มีข้อมูลอะไรบ้าง
ข่าวเวิร์คพอยท์23