ฝากขัง ร้อยเอก BHQ พบหลักฐานโยงสายลับกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กเชียร์ฮุนเซน
ตำรวจ สภ.ลำดวน ควบคุมร้อยเอก BHQ ฝากขังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน และเข้าเมืองผิดกฎหมาย อยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียด ปมสายลับกัมพูชา ขณะที่ผู้การฯ บุรีรัมย์ พบหลักฐานที่พบความเชื่อมโยง-โพสต์เฟซบุ๊กเชียร์การทำงานของ “ฮุนเซน”
บุรีรัมย์ ตำรวจฝากขังวันนี้ทหารกัมพูชา ยศร้อยเอก อายุ 36 ปี กับคดีอาวุธปืนและเข้าเมืองผิดกฎหมาย และอยู่ระหว่างสืบว่าเป็นสายลับให้กับเขมรหรือไม่ ผู้ใหญ่บ้านบ้านแฟนสาวเผยเมียนายวิน มีสามีเป็นฝรั่งอยู่แล้วจนเอาเงินมาสร้างบ้าน สามีเขมรเป็นชายคบซ้อน อึ้งหลังทราบข่าวเพราะเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นนักกีฬาหมู่บ้าน
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.ลำดวน ได้นำตัวชายต้องสงสัยเป็นสายลับกัมพูชา คือ นายวิน ดา อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในความผิดเบื้องต้นคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน และเข้าเมืองผิดกฎหมาย
หลังจากตำรวจ สภ.ลำดวน ได้เข้าควบคุมตัวนายวิน ได้ที่บ้านโคกสูง หมู่ที่ 9 ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ (5 ส.ค.) ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวจอย อายุ 27 ปี ภรรยาของนายวิน ทั้งสองมีบุตรด้วยกัน 1 คนอายุ 1 ปี 2 เดือน เนื่องจากตรวจสอบก่อนหน้านี้ พบเป็นชาวต่างชาติจะต้องมีการตรวจสอบตามคำสั่งของหน่วยความมั่นคง
แต่ปรากฏว่า จากการตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และชุดทหารเขมร ยศร้อยเอก และติดตราสัญลักษณ์ BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน อีกหลายชุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า น่าจะมาแฝงตัวเป็นสายลับ แอบส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา นำมาสู่การสอบสวนเพิ่มเติมกับหน่วยงานอีกหลายฝ่าย ทั้งกองทัพภาค 2 หน่วยความมั่นคง และตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
ถึงแม้นายวิน จะปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นสายลับ ยอมรับเพียงว่าเคยเป็นทหารมาได้ 9 เดือน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีหลักฐานเชื่อมโยงหลายอย่าง ทั้งการโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่เชียร์การทำงานของฮุนเซน ทั้งพบมีข้อมูลในโทรศัพท์รวม 3 เครื่อง และยังพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อในประเทศไทยประกอบด้วย ชื่อในบัตรประชาชน: นายวิน ดา อายุ 36 ปี ชื่อในพาสปอร์ต MEAS SOMONCHANNAK (เมียะฮ์ โซมอนจันนะ) ชื่อทางทหาร ร้อยเอก ซน กิม ไอ กองบัญชา BHQ ชื่อในบัตรที่ทำงาน (เป็นอีกชื่อหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบ)
จนกระทั่งต่อมา พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเผยว่า จากหลักฐานที่พบมีความเป็นไปได้ว่ามีการเชื่อมโยงกัน แต่จะต้องไปสอบอย่างละเอียดเพื่อความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งจะต้องใช้เวลา ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ หากพบเป็นจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเมืองไทยต่อไป
ล่าสุดนางจรีรัตน์ พิรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 บ้านโคกสูง ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวจอย ภรรยานายวิน โดยผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า นายวิน เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเกือบ 2 ปีที่แล้ว แต่ไม่ได้ทำงานอะไร
เท่าที่เห็นนายวินเป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับวัยรุ่นในหมู่บ้านได้ดี และร่วมเล่นกีฬากับเยาวชนจนชนะมาแล้วหลายครั้ง ก่อนหน้านี้ไม่คิดอะไรเพราะเป็นคนมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน พอทราบข่าวยอมรับว่าตกใจ ลึกๆ เชื่อว่าน่าจะเป็นสายลับจริง
นางจรีรัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับ น.ส.จอย เคยไปทำงานอยู่พัทยา กลับบ้านบ้างเป็นบางครั้ง ต่อมามีแฟนเป็นฝรั่ง จนได้สร้างบ้านแล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน จนกระทั่งเห็นนายวิน เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยจนมีลูกด้วยกัน 1 คน ส่วนสาเหตุที่ทั้งสองคนไม่ได้ทำงานและมีเงินใช้ส่วนตัว เชื่อว่าน่าจะเป็นเงินที่ฝรั่งส่งมาให้ทุกเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ตำรวจเข้าจับกุมวันแรก น.ส.จอย ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ พอมาเป็นข่าว ได้เข้ามายอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า จะขอปิดบังใบหน้าทั้งหมด และไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะกลัวว่าสามีฝรั่งจะรู้เรื่อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ฝากขัง ร้อยเอก BHQ พบหลักฐานโยงสายลับกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กเชียร์ฮุนเซน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เลขาธิการอาเซียนเผย อาเซียนมีบทบาทสำคัญในการใช้ "การทูตเงียบ" ช่วยระงับศึกไทย-กัมพูชา
- ฝากขัง ร้อยเอก BHQ พบหลักฐานโยงสายลับกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กเชียร์ฮุนเซน
- “บิ๊กเล็ก” และคณะถึงมาเลเซีย ร่วมประชุม GBC ไทย–กัมพูชา ยึดกรอบหัวใจสำคัญในการเจรจา
- รมช.กห. เข้าพบ “อันวาร์” ก่อนถก GBC ไทย - กัมพูชา บ่ายนี้
- “ธีรรัตน์” บอกสาเหตุเด้ง ผู้ว่าฯ อุบลฯ เพราะเบิกงบฯ ชายแดนล่าช้า จึงต้องดำเนินการ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath