จ.น่าน เตรียมพร้อมรับมือพายุคาจิกิ เข้มมาตรการเฝ้าระวัง

น่าน 25 ส.ค. – จังหวัดน่าน เตรียมพร้อมรับมือพายุคาจิกิ เข้มมาตรการเฝ้าระวังและช่วยเหลือประชาชน หลังมีการคาดการณ์ว่าพายุจะส่งผลกระทบระหว่างวันที่ 25-26 ส.ค.นี้ ร้านค้าเริ่มเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง ใช้ผ้าใบคลุมอุปกรณ์และเครื่องมือที่ขนย้ายลำบาก เพื่อป้องกันความเสียหาย

ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” หลายพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือ เข้มมาตรการเฝ้าระวัง-ช่วยเหลือประชาชน

ที่ จ.น่าน ประชาชนต่างติดตามข่าวสารพายุ “คาจิกิ” อย่างใกล้ชิด หลังมีการคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ จ.น่าน ระหว่างวันที่ 25-26 สิงหาคม 2568 หลายครัวเรือนและร้านค้าเริ่มวางแผนเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง ใช้ผ้าใบคลุมอุปกรณ์และเครื่องมือที่ขนย้ายลำบาก เพื่อป้องกันความเสียหาย ขณะเดียวกันโรงพยาบาลน่าน ได้ประสานกำลังทหารเข้าช่วยขนย้ายเครื่องมือแพทย์สำคัญไปเก็บรักษาในพื้นที่ปลอดภัย โดย จ.น่าน ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางมาตรการเฝ้าระวังและช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงริมน้ำและเชิงเขา ทั้งนี้ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการ War Room ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดคู่สายด่วนเพิ่มหมายเลข 054-710000 และ 054-710001 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว

เตือน 35 จังหวัด เสี่ยงแผ่นดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก 24-28 ส.ค.
ขณะที่กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกประกาศเตือนภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ครอบคลุม 35 จังหวัด 248 อำเภอทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค. 2568 จากอิทธิพลของ พายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่กำลังแรง ทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่อง

สำหรับจังหวัดที่ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงจาก พายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ”
ภาคเหนือ ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, แพร่, ลำปาง, ลำพูน, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, พิษณุโลก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย เลย, ชัยภูมิ, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ

ภาคกลาง (3 จังหวัดประกอบด้วย กาญจนบุรี, นครนายก, อุทัยธานี ภาคตะวันออก ประกอบด้วย ปราจีนบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, สระแก้ว ภาคใต้ประกอบด้วย ชุมพร, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง, สตูล

กรมทรัพยากรธรณีให้คำแนะนำแก่เครือข่ายอาสาสมัครฯ และประชาชน ให้ติดตามปริมาณน้ำฝน หากฝนสะสม เกิน 100 มม. ใน 24 ชม. เสี่ยงดินถล่ม เฝ้าระวังพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำ ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน หลีกเลี่ยงการเดินทางทางน้ำ และสังเกตสัญญาณผิดปกติ เช่น น้ำขุ่นจัด เศษซากไม้มากับน้ำ จัดเวรยามเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง และเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อม.-สำนักข่าวไทย