โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

AAI ปรับเป้ายอดขาย-มาร์จิน เหตุครึ่งปีหลังบาทแข็ง ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงยังเด่น เชื่อ ภาษีตอบโต้ กระทบกำลังซื้อแค่ระยะสั้น

Wealthy Thai

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บมจ. เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ AAI ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 มีรายได้รวม 1,705 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 195 ล้านบาท ทำให้ครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 3,586 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 453 ล้านบาท ซึ่งยอดขายยังเติบโตเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกปีก่อนหน้า จากยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยง ทั้งการรับจ้างผลิตและแบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ยังสามารถเติบโตได้ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทานสำหรับผู้บริโภคยอดขายลดลงเล็กน้อย ปรับเป้าหมายยอดขายเป็น 7,100 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 16-18 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากถูกกดดันทั้งจากมาตรการภาษีสหรัฐอเมริกาที่กระทบทั่วโลก ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า และกำลังซื้อที่ชะลอตัวในระยะสั้น พร้อมประกาศปันผลระหว่างกาล 0.2031บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 26 สิงหาคม จ่ายเงินปันผล 10 กันยายน 2568
นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI เปิดเผยในกิจกรรม Opportunity Day ประจำไตรมาส 2/2568 ถึง ผลงานไตรมาส 2/2568 และครึ่งปีแรกของปีนี้ ว่า กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวมสำหรับไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 1,705 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,717 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายในในกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึกลดลง ในขณะที่กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงทรงตัว ซึ่งผลกระทบส่วนใหญ่มาจากการอ่อนค่าของค่าเงินสหรัฐเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 195 ล้านบาท ลดลง 35 เปอร์เซ็นต์ จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 300 ล้านบาท โดยเกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลง ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง
ด้านผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯในครึ่งปีแรก 2568มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,586 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า รายได้รวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตจากยอดคำสั่งผลิตสินค้า (OEM) ภายใต้แบรนด์ของลูกค้ายังขยายตัวได้ดี อาหารและขนมสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ โดยเฉพาะแบรนด์ โปร เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 453 ล้านบาท ลดลง 16.4 เปอร์เซ็นต์ จากผลกระทบจากค่าเงินสหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทเป็นสำคัญ
ในช่วงครึ่งปีหลัง กลุ่มบริษัทฯ คาดว่า ผลจากมาตรการภาษีตอบโต้จะกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดสหรัฐอเมริกา และการอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ จะกระทบต่อยอดขายและอัตรากำไรสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงของกลุ่มบริษัทฯ จึงปรับประมาณการยอดขายปี 2568 ลดลงจาก 7,400 ล้านบาท เหลือ 7,100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงประมาณ 6,300 ล้านบาท กลุ่มอาหารพร้อมรับประทานบรรจุภาชนะปิดผนึกประมาณ 700 ล้านบาท และปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นลงมาอยู่ประมาณ 16-18% โดยที่ในระยะยาว บริษัทฯ ยังคงมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต พร้อมเดินหน้าแผนขยายกำลังการผลิต เพื่อรักษาขีดความสามารถทางการแข่งขัน เนื่องจากตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโต ตามเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization)กระแสการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง ตลอดจนความนิยมในผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิตที่ให้ความสำคัญกระบวนการด้านความยั่งยืน โดยใช้ความได้เปรียบด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์แบบเปียก แบบเม็ด และผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยง ตลอดจนความได้เปรียบของประเทศไทยที่เป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญ ในขณะที่อัตราภาษีตอบโต้ของประเทศไทยก็ไม่ได้สูงกว่าประเทศคู่แข่ง
นอกจากนี้ AAIมีความภาคภูมิใจที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ. 2568 โดยสถาบันไทยพัฒน์ และยังได้รับการประเมินระดับ “ดีเยี่ยม” จากการประเมิน AGM Checklist ประจำปี 2568ด้วยคะแนน 100 คะแนนเต็ม สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการให้ความสำคัญต่อสิทธิของผู้ถือหุ้น ด้วยการยกระดับกระบวนการประชุมผู้ถือหุ้นให้ได้มาตรฐานสูงสุด ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารงานตามหลักธรรมมาภิบาล พัฒนาระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส พร้อมให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม
คณะกรรมการบริษัท มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงาน 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2568 ในอัตรา 0.2031 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล 95 เปอร์เซ็นต์ของกำไรสุทธิ กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 26 สิงหาคมและ จ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 กันยายน 2568

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Wealthy Thai

ก.ล.ต. กล่าวโทษ บมจ. ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ และอดีตผู้บริหาร กรณีเปิดเผยข้อมูลในแบบ 56-1 One Report ประจำปี 2565 ไม่ถูกต้อง

53 นาทีที่แล้ว

ก.ล.ต. แจ้งเตือนผู้ถือหุ้นกู้ PRIME253B ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตลท. เผย Thailand Focus 2025 ดึงดูดนลท. สถาบันทั่วโลก 180 ราย หวังช่วยเสริมความเชื่อมั่น หนุนเงินทุนต่างชาติไหลสู่ตลาดหุ้นไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ซีพี แอ็กซ์ตร้า จับมือ กรมปศุสัตว์ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานเนื้อสัตว์ หนุนช่องทางจัดจำหน่าย พร้อมยกระดับระบบตรวจสอบย้อนกลับ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่นๆ

"โรบินสันไลฟ์สไตล์" เปิดเกมรุกไตรมาสสุดท้ายของปี ชูกลยุทธ์ ‘Lifestyle & Experiential Community’

สยามรัฐ

BANPU จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.12 บ./หุ้น XD 9 ก.ย.นี้

ทันหุ้น

SUSCO จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.06 บาทต่อหุ้น กำหนด XD 10 ก.ย.2568 จ่ายวันที่ 26 ก.ย. นี้

ทันหุ้น

บอร์ด BDMS เคาะแจกปันผล 0.35 บาท ขึ้น XD 9 ก.ย.นี้

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“MINT–THAI-Agoda” ผนึกมุมมอง ดันท่องเที่ยวไทยโตยั่งยืน ฝ่าความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ไอคอนสยาม ยกทัพ ‘สุขสยาม–ไอคอนคราฟต์’ โชว์ Soft Power ไทย กลางกรุงโซล

The Bangkok Insight

ก.ล.ต. กล่าวโทษ ALL-อดีตผู้บริหาร ปมปกปิดข้อพิพาทในแบบ 56-1 ปี 65

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ก.ล.ต. ขอผู้ถือหุ้นกู้ PRIME253B ใช้สิทธิ 29 ส.ค.นี้ หลังครั้งก่อนองค์ประชุมไม่ครบ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...