โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘เวียนหัว-บ้านหมุน’ สัญญาณเตือน ‘น้ำในหูไม่เท่ากัน’

เดลินิวส์

อัพเดต 12 สิงหาคม 2568 เวลา 13.59 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนถือเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นของความผิดปกติภายในร่างกาย อย่างโรคน้ำในหูไม่เท่ากันที่ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน

อาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง เป็นสิ่งที่หลายๆคนย่อมเคยพบเจอกันได้จากสาเหตุต่างๆ แต่อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เคลื่อนไหว ถือเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นของความผิดปกติภายในร่างกาย อย่างเช่นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

สาระน่ารู้จาก พญ.ณัฐชา อริยสังกัปป แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน โสต ศอ นาสิก ศูนย์โสต-ศอ-นาสิก เฉพาะทาง โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล บอกเล่าถึงโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s disease) ว่า เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของความดันน้ำในหูชั้นใน จนส่งผลต่อการได้ยิน ทำให้รู้สึกหูอื้อ การได้ยินน้อยลง หรือวิงเวียนศีรษะ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในหูข้างเดียว และพบได้ในทุกเพศตั้งแต่วัย 30 ปีขึ้นไป

อาการแบบไหน เข้าข่ายน้ำในหูไม่เท่ากัน?

น้ำในหูไม่เท่ากันมักเป็นอาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน สังเกตได้จากอาการดังนี้

1.เวียนศีรษะรุนแรง รู้สึกเหมือนบ้านหมุน

2.หูอื้อ รู้สึกเหมือนมีแรงดันในหู

3.การได้ยินเสียงลดลง

4.อาจคลื่นไส้ อาเจียน ร่างกายเสียการทรงตัว

5.อาจมีเสียงวิ้งหรือเสียงรบกวนในหู

สาเหตุของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

ปัจจุบัน โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ยังไม่เป็นที่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่จากการศึกษาและสมมติฐาน พบข้อบ่งชี้ว่าอาจมีสาเหตุ ดังนี้

-โครงสร้างหูชั้นในผิดปกติแต่กำเนิด

-โรคทางพันธุกรรม

-โรคภูมิแพ้

-โรคจากต่อมไร้ท่อ เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง

-การติดเชื้อไวรัส หูชั้นกลางอักเสบ

-ความผิดปกติของเกลือแร่ในร่างกาย

-อุบัติเหตุที่ศีรษะ

การรักษาโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาดได้ มักรักษาตามอาการที่ตรวจพบ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดย

1.การใช้ยา เช่น ยาขับปัสสาวะ เพื่อลดปริมาณน้ำที่คั่งในหูชั้นใน ยาบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ แก้คลื่นไส้

2.ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา แพทย์อาจใช้วิธีรักษาด้วยการฉีดยาผ่านเยื่อในหูชั้นกลาง หรือในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจพิจารณาให้มีการผ่าตัด แต่เป็นส่วนน้อย

การป้องกันและควบคุมโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

เราสามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงของโรคได้ด้วยการดูแลตัวเอง ดังนี้

1.ลดเค็ม อาหารโซเดียมสูง

2.ลดคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ

3.ทำจิตใจให้แจ่มใส ควบคุมความเครียด

4.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

5.รีบมาพบแพทย์เมื่อเกิดอาการผิดปกติของร่างกาย

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ถือเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่สามารถป้องกันและบรรเทาได้หากสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่นๆ และมาพบแพทย์เฉพาะทาง จะช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำและการรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น หากมีอาการเหล่านี้ซ้ำๆ อย่าปล่อยให้เป็นแค่ “ความเวียนหัวที่ชินชา” เพราะบางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่เราต้องฟังอย่างจริงจัง.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

จตุพร จับตาสถานการณ์เปิดเสรีหมู ชี้เจรจาเปิดตลาดกับสหรัฐฯยังไม่จบ มีรายละเอียดต้องคุยอีกมาก

36 นาทีที่แล้ว

‘อิ๊งค์’ยิ้มไม่ตอบข่าวลาออก ก่อนศาลรธน.ฟันคดีคลิปเสียง

37 นาทีที่แล้ว

สหรัฐขยายเวลา “พักรบทางการค้า” กับจีน ออกไปอีกอย่างน้อย 90 วัน

58 นาทีที่แล้ว

“พิ้งค์พลอย-ชิงชิง-เนย-มะเหมี่ยว” อวดภาพความประทับใจถึงแม่พร้อมเปิดบทบาทแม่ในฝันที่ฉันอยากเป็น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดิ้นสู้ฟัด “เขากระโดง VS อัลไพน์”

เดลินิวส์

“หมอบี” เปิดปากครั้งแรก เผยเงินบริจาคที่ให้ “หลวงพ่ออลงกต” ครบหรือไม่

เดลินิวส์

เช็ก 46 จังหวัด ฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ ‘กทม.’ เจอฝน 60% กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม