สธ.เผย สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มีเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย จากเหตุฆ่าตัว โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง
วันนี้ (30 กรกฎาคม 2568) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์และการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อมูล ณ เวลา 10.00 น. วันนี้ มีรายงาน - ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นประชาชนที่มีรายชื่อในศูนย์อพยพ แต่พักกับญาติข้างนอก หายออกจากบ้านคืนวันที่ 29 กรกฏาคม ก่อนจะพบฆ่าตัวตายเช้าวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 16 ราย
- บาดเจ็บคงเดิม 38 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 11 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 8 ราย อาการปานกลาง 3 ราย
- โรงพยาบาลยังปิดบริการ 11 แห่ง เปิดบริการบางส่วน 9 แห่งตามเดิม ส่วน รพ.สต. ได้รับผลกระทบลดลงเหลือ 144 แห่ง
- ขณะที่ศูนย์อพยพมีการเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 705 แห่ง ผู้เข้าพักรวม 186,101 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 35,653 คน ได้จัดทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ ควบคุมโรค อนามัยสิ่งแวดล้อม และสุขภาพจิต หมุนเวียนดูแล 365 ทีม พร้อมรถฉุกเฉิน 129 คัน
“เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระทีมปฏิบัติการในพื้นที่ ได้จัดทีมสนับสนุนจิตอาสาผลัดแรก 43 ทีม เตรียมลงพื้นที่เมื่อได้รับการร้องขอ และกรมการแพทย์ได้ส่งทีม MERT จิตอาสา จากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต) และมูลนิธิร่วมกตัญญู รวม 25 คน นำโดย พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย” นายแพทย์โสภณกล่าว
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ที่มีประชาชนมาอยู่รวมกันจำนวนมากในศูนย์พักพิง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจและโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ รวมถึงปัญหาด้านสุขภาพจิตได้ ซึ่งจากการคัดกรองประชาชน 20,693 คน พบเครียดสูง 600 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 142 คน ทุกรายได้รับการปฐมพยาบาลทางใจ และส่งเข้ารับการดูแลตามกระบวนการ ได้กำชับให้ติดตามดูแลผู้มีความเสี่ยงฆ่าตัวตายอย่างใกล้ชิด จัดกิจกรรมเยียวยาฟื้นฟูจิตใจประชาชนในศูนย์พักพิง เพื่อลดความเครียดและลดความเสี่ยงฆ่าตัวตาย ตลอดจนเข้มงวดเรื่องสุขาภิบาลอาหารและสิ่งแวดล้อม และเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง