เปิด "5โรคยอดฮิตในรูทวาร" หมอเผย ถ้ามีอาการดังนี้ ระวังมะเร็ง
"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
5 โรคยอดฮิตในรูทวาร ที่หลายคนชอบสับสน ได้แก่:
1. มะเร็งลำไส้ใหญ่
2. มะเร็งไส้ตรง
3. มะเร็งทวารหนัก
4. ริดสีดวงทวารหนัก
5. แผลปริที่ขอบทวาร (Anal fissure)
1. ถ่ายเป็นเลือด…แต่เลือดแบบไหนกันแน่?
ผมแผนหมอเคยเจอคนไข้มานักต่อนัก บอกว่า “คุณหมอครับ ผมถ่ายเป็นเลือด คงเป็นริดสีดวงใช่มั้ยครับ” พอถามต่อกลับตอบว่า “เลือดออกปนมากับอึ บางทีเหมือนน้ำล้างเนื้อ” อ้าวเฮ้ย แบบนี้อาจไม่ใช่แค่ริดสีดวงแล้วนะครับ!
• ถ้าเป็น ริดสีดวง: เลือดจะ “สด ใส เป็นหยด” หยดติ๋ง ๆ ลงชักโครกหลังถ่าย และไม่ปนมากับอุจจาระ
• ถ้าเป็น แผลปริที่ขอบทวาร: เลือดก็จะสดเหมือนกัน แต่มีไม่เยอะ และมักจะเจ็บแบบจี๊ด ๆ ขณะแหวกตูด (ขออภัยที่ตรงไปตรงมา)
• แต่ถ้าเป็น มะเร็งลำไส้/ไส้ตรง/ทวารหนัก: เลือดจะ “คล้ำ ปนกับอุจจาระ” หรือเหมือนมีเนื้อละลายออกมา ต้องระวังให้ดีครับ โดยเฉพาะถ้าอายุเกิน 45หรือมีญาติเป็นมะเร็ง
ดังนั้น อย่าชะล่าใจว่าถ่ายเป็นเลือดต้องเป็นริดสีดวงเสมอไปครับ มันเหมือนเลือดจากสนามบอลกับเลือดจากศึกสงคราม—มันบอกต้นเหตุไม่เหมือนกัน!
2. เจ็บจี๊ดเหมือนก้นโดนมีดกรีด
เวลาคนไข้บอกว่า “หมอครับ ผมปวดก้นขณะถ่าย เหมือนมีมีดบาด แล้วก็กลัวเข้าห้องน้ำเลยครับ” ผมแผนหมอจะนึกถึงสิ่งแรกคือ แผลปริที่ขอบทวาร หรือ Anal fissure เลยครับ
แผลนี้เจ็บเป็นบ้า เป็นการฉีกของผิวหนังรอบทวารหนักจากการเบ่งแรง หรืออึแข็งบาดตอนถ่าย เหมือนเอาเศษกระเบื้องมาฝนปากแผล เจ็บจนคนไข้เดินหนีห้องน้ำไปเลย บางคนผวาไปเป็นเดือน
ริดสีดวง แม้จะมีความรำคาญหรือแสบคัน แต่อาการปวดมักจะไม่จี๊ดเฉียบพลันเท่าฟิชเชอร์ ส่วน มะเร็งทวารหนัก อาจมีเจ็บได้ถ้ามีแผลหรือก้อนหนาไปกดประสาท แต่ส่วนใหญ่จะมาแบบเรื่อย ๆ ลึก ๆ ไม่เฉียบพลัน
ถ้าคุณเจ็บขณะถ่ายแล้วกลัวถ่ายจนท้องผูกเรื้อรัง ผมแนะนำให้ไปหาหมอครับ ไม่งั้นจาก “ฟิชเชอร์” อาจพัฒนาเป็นริดสีดวง แล้วก็เข้าสู่ห่วงอุบาทว์แห่งความเจ็บที่ไม่มีวันจบ
3. ถ่ายไม่สุด เหมือนมีอะไรมาค้างอยู่
ถ้าคุณนั่งถ่ายนานเหมือนนั่งสมาธิ แล้วยังรู้สึกเหมือน “มีอะไรค้างในก้น” หรืออยากเบ่งอีกเรื่อย ๆ อาการนี้อาจไม่ได้มาจากจิตใจ แต่เป็นเพราะสิ่งที่อยู่ในก้นจริง ๆ ครับ!
• ถ้าเป็น ริดสีดวงภายในขนาดใหญ่: มันจะเหมือนมี “ตุ่มยื่นออกมา” เวลาถ่ายเสร็จแล้วตุ่มนั้นยุบไม่หมด คนไข้จะรู้สึกเหมือนยังถ่ายไม่หมด หรือเหมือนมีอะไรคาอยู่
• แต่ถ้าอาการนี้มาพร้อมกับน้ำหนักลด อ่อนเพลีย หรือถ่ายปนเมือกเลือดบ่อย ๆ ก็อย่ามองข้าม มะเร็งไส้ตรง หรือ มะเร็งทวารหนัก ครับ โดยเฉพาะถ้ามีประวัติญาติเป็นโรคมะเร็งลำไส้
อาการถ่ายไม่สุด ไม่ได้แปลว่าคุณต้องกินยาถ่าย หรือดื่มน้ำอุ่นเสมอไป บางทีมันเป็นสัญญาณจากก้นว่า “ไปตรวจตูดเถอะนะ”
4. ติ่งยื่นออกมาที่ก้น แบบไหนควรกังวล?
มีคนไข้ผู้หญิงมาบอกผมว่า “หมอคะ หนูรู้สึกเหมือนมีก้อนยื่นออกมาจากรูทวาร มันตุง ๆ ตอนอาบน้ำ แล้วบางทีก็แสบ” ผมแผนหมอบอกเลยว่า เรื่องนี้ห้ามละเลยครับ
• ถ้าเป็น ริดสีดวงภายนอก: จะคลำได้เป็นตุ่มนิ่ม ๆ รอบปากทวาร และอาจแสบคันเวลาเช็ดก้น
• ถ้าเป็น แผลฟิชเชอร์เรื้อรัง: อาจมีติ่งเนื้อที่เรียกว่า “sentinel pile” หรือปุ่มเฝ้าระวัง ยื่นออกมาตรงแผลเดิม
• แต่ถ้าเป็น มะเร็งทวารหนัก: มักเป็นก้อนแข็ง รูปร่างผิดปกติ ไม่ยุบลง และอาจมีเลือดหรือหนองร่วมด้วย
ก้อนที่ก้นไม่ใช่ของแปลก แต่ถ้าก้อนมันไม่หายไปหรือโตขึ้นเรื่อย ๆ ต้องตรวจครับ อย่าปล่อยให้มะเร็งแอบแฝงในมุมมืดของร่างกาย
5. อึเปลี่ยนรูป เปลี่ยนจังหวะ ควรห่วงมั้ย?
อึเป็นตัวสะท้อนสุขภาพลำไส้ ถ้าอยู่ดี ๆ จากอึท่อนงามเปลี่ยนเป็นแบนลีบ หรือจากวันละ 1 รอบ กลายเป็นวันละ 4–5 รอบแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ผมแผนหมอจะเริ่มกังวลเรื่อง มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือ มะเร็งไส้ตรง แล้วครับ
โดยเฉพาะ ถ้าอึลีบลง เหมือนเส้นบะหมี่ หรือลูกชิ้นยาว ๆ แถมยังมีมูกปน มีเลือด ปวดท้องร่วมด้วย—อันนี้คือสัญญาณเตือนคลาสสิกของลำไส้มีอะไรมาขวาง เช่น ก้อนเนื้อหรือมะเร็งที่เริ่มก่อรู
ส่วน ริดสีดวงและฟิชเชอร์ มักจะไม่ทำให้อึเปลี่ยนรูปแบบครับ ยกเว้นว่าคนไข้กลัวเบ่งจนท้องผูกเรื้อรัง แล้วอึแข็งจัดแถมเป็นก้อนเล็ก ๆ แบบแพะ ก็เป็นปัญหาอีกแบบหนึ่งไปเลย
เพราะฉะนั้นถ้าอึเปลี่ยนไปแบบไม่มีเหตุผล—อย่ามัวแต่อ่านโหงวเฮ้งอึในอินเทอร์เน็ต ไปส่องกล้องกับหมอเถอะครับ ดีกว่ารู้ตัวช้าเกินไป