KTC อีกหนึ่งหุ้นปันผลดี คาดปี 68 ให้ผลตอบแทบเกือบ 5%
หุ้นปันผลสัปดาห์นี้ Wealthy Thai ขอนำเสนอหุ้นบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตดี ในขณะเดียวกันก็ยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield)ในระดับสูงเกือบ 5%นั่นคือ KTC หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
โดย KTCประกอบธุรกิจหลักด้านบัตรเครดิต ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับบัตรเครดิต ธุรกิจร้านค้ารับบัตร การให้บริการรับชำระเงินแทน และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ซึ่งครอบคลุมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ ธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงธุรกิจเช่าซื้อและธุรกิจลิสซิ่ง
สำหรับประวัติการจ่ายปันผลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (65-67) KTCจ่ายปันผลปี 2565 ในอัตรา 1.15บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิ (Dividend Payout Ratio)ที่ 41.50%, ปี 2566 จ่ายปันผลในอัตรา 1.27บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Payout Ratioที่ 45.22%และปี 2567 จ่ายปันผลในอัตรา 1.32บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Payout Ratioที่ 45.25%ซึ่งเป็นระดับสูงกว่านโยบายจ่ายปันผลที่บริษัทกำหนดไว้ที่ 40%
ขณะที่ในปี 2568 – 2569 KTC มีแนวโน้มจะจ่ายเงินปันผลในระดับที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าปีนี้บริษัทจะจ่ายปันผลในอัตรา 1.34 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yieldที่ 4.8 % ส่วนปี 2569 คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นเป็น 1.41บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 5.1%
ในส่วนของผลประกอบการ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สอดคล้องกับการจ่ายปันผลของ KTCก็มีทิศทางเติบโตดี โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดแนวโน้มผลดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2568 จะมีทิศทางเร่งตัวขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและครึ่งปีแรก หนุนจาก 1) ความต้องการใช้สินเชื่อที่สูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลและแผนเร่งขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
2) คาด NIMจะทยอยปรับขึ้นตามอานิสงส์บวกจากต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงตามดอกเบี้ยนโยบาย 3) มีเงินชดเชยจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เข้ามาเสริม และ 4) คาดการตั้งสำรองมีช่องว่างให้ปรับลงได้อย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันบริษัทมี Coverage Ratio สูงเกินไปเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม หนุนให้คาดว่า KTC จะมีกำไรสุทธิในปี 2568 ที่ 7,669 ล้านบาท โต 3.1%จากปีก่อน และโตต่อ 5.2% ในปี 2569
นอกจากนี้ KTC ได้แจ้งข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังเตรียมเสนอมติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อเพิ่มวัตถุประสงค์ของบริษัทให้รองรับการขยายธุรกิจในกลุ่มนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิต ซึ่งมองว่าน่าสนใจ เพราะบริษัทมีข้อได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องข้อมูลลูกค้า
รวมถึงการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อซื้อประกันถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของลูกค้า ทำให้ KTC สามารถที่จะต่อยอดนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันให้กับลูกหนี้ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดจะเข้ามาเป็นแหล่งรายได้ค่าธรรมเนียมแหล่งใหม่ให้กับบริษัท
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของ KTC เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ถูกบังคับขายหุ้นที่นำมาวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นปัจจัยที่กระทบต่อพื้นฐานของบริษัท ขณะที่ผลดำเนินงานที่ออกมายังสะท้อนภาพคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตจากธุรกิจนายหน้าประกัน ทำให้มองว่า KTC ยังน่าสนใจ และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จากมูลค่าพื้นฐานปี 2568 ที่ 36 บาท