“คณะผู้บริหารสธ.” ลงพื้นที่ชายแดนศรีสะเกษ-อุบลฯ รับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ย้ำ สนับสนุนบุคลากร-เวชภัณฑ์เต็มที่ พร้อมเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบเหตุ
รองปลัด สธ. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ-อุบลฯ ติดตามสถานการณ์ชายแดน
กำชับแผนดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน-สุขาภิบาลในศูนย์พักพิง พร้อมสนับสนุนบุคลากรและเวชภัณฑ์เต็มที่ ยืนยันดูแลประชาชนต่อเนื่องจนกว่าวิกฤติจะคลี่คลาย
วันนี้( 25 กรกฎาคม)นพ.ภูวเดช สุระโคตร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานี ตามข้อสั่งการของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก โดยมีนายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้คณะผู้บริหารสาธารณสุขได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารเขตสุขภาพที่ 10 สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ และโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อกำหนดแนวทางการรับมือเหตุฉุกเฉินในพื้นที่
นพ.ภูวเดช เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้กำหนดพื้นที่บริการและระบบดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลแนวชายแดนให้ชัดเจน พร้อมประสานการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากกรมการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย รวมถึงการวางแผนเวรในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างรัดกุม
พร้อมกันนี้ยังได้มอบแนวทางให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดูแลสุขอนามัย สุขาภิบาลอาหาร น้ำดื่ม รวมถึงการดูแลเด็กเล็ก โดยประสานกรมอนามัยจัดส่งนมผงและสิ่งจำเป็นอย่างเพียงพอ
รองปลัด สธ. ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนทรัพยากรและบุคลากรอย่างเต็มกำลัง เพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ด่านหน้า
จากนั้น คณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสระเยาว์ อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีผู้อพยพพักอาศัยอยู่ 548 คน ก่อนเดินทางต่อไปยัง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวอีก 2 แห่ง ได้แก่ศูนย์พักพิงที่ว่าการอำเภอเดชอุดม มีผู้ป่วย 44 คน ญาติ 70 คน รวม 114 คนและศูนย์พักพิงโรงเรียนบ้านแขมเจริญ มีผู้ป่วย 50 คน ญาติ 110 คน รวม 160 คน ในการประเมิน พบว่ามีผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด อาทิ ผู้ป่วยติดเตียง 55 ราย, ผู้ป่วยล้างไต 42 ราย (ล้างไตทางเส้นเลือด 37 ราย, ไม่ฟอกไตอีก 5 ราย), หญิงตั้งครรภ์ 2 ราย และผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือ 21 ราย
“กระทรวงสาธารณสุขจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งดำเนินการทุกด้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง”
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO